สำนักงานสถิติแห่งชาติอินโดนีเซียเปิดเผยในวันนี้ (15 ธ.ค.) ว่า อินโดนีเซียมียอดเกินดุลการค้า 5.16 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 4.26 พันล้านดอลลาร์
ปัจจัยที่ทำให้อินโดนีเซียเกินดุลการค้าอย่างมากในเดือนพ.ย.นั้น มาจากการนำเข้าลดลง 1.89% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 1.896 หมื่นล้านดอลลาร์ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดการส่งออกเพิ่มขึ้น 5.58% แตะที่ระดับ 2.412 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขยายตัวที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 9.5%
ในช่วงที่ผ่านมานั้น อินโดนีเซียมีการส่งออกที่เฟื่องฟู เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของการส่งออกชะลอตัวลงตั้งแต่เดือนมิ.ย. เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์อ่อนแรงลงเป็นวงกว้าง ตั้งแต่น้ำมันปาล์ม นิกเกิล และแร่เหล็ก
ส่วนในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย. มูลค่าการส่งออกของอินโดนีเซียอยู่ที่ 2.681 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ในปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 2.310 แสนล้านดอลลาร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 65)
Tags: การนำเข้า, อินโดนีเซีย, เกินดุลการค้า, เศรษฐกิจอินโดนีเซีย