นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรม ในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.-พ.ย.65) อยู่ที่ 75,639 ล้านบาท ลดลง 9.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 13,423 ล้านบาท หรือลดลง 15.1% เนื่องจากรัฐบาลได้มีการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง เพื่อช่วยบรรเทาภาระให้กับประชาชน หลังจากที่แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกทรงตัวอยู่ในระดับสูง
ภาพรวมการจัดเก็บภาษีน้ำมันของกรม อยู่ที่ 16,467 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 49.6% และต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 18,690 ล้านบาท หรือลดลง 53.2% ซึ่งมีการประเมินว่าการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตรนั้น จะทำให้สูญรายได้ราว 1 หมื่นล้านบาทต่อเดือน
“การจัดเก็บรายได้ที่ลดลง หลัก ๆ เป็นผลมาจากมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ซึ่งมีสัดส่วน 40% ของการจัดเก็บรายได้ของกรมฯ แต่เรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐบาล โดยล่าสุดมีผลถึงเดือน ม.ค. 2566 ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน จากผลกระทบของราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง แต่ภาพรวมการจัดเก็บรายได้จากสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ขณะนี้ขยายตัวได้ดีเกือบทั้งหมด อาทิ ภาษีสุรา ยาสูบ และรถยนต์ ที่เติบโตได้เป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งเป็นมาจากเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวได้ดีขึ้น และอาจจะเข้าใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้การใช้จ่าย อุปโภคบริโภคต่าง ๆ อยู่ในช่วงขาขึ้น” นายเอกนิติ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ธ.ค. 65)
Tags: กรมสรรพสามิต, ภาษีดีเซล, ภาษีน้ำมัน, เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ