![](https://www.infoquest.co.th/wp-content/uploads/2022/10/20221026_Canva_AURA-ออโรร่า-ดีไซน์-1024x576.png)
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. ออโรร่า ดีไซน์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคและบริโภค หมวดแฟชั่น โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “AURA” ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2565
AURA ประกอบธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ เครื่องประดับเพชรและอัญมณี และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นที่มีบริการแบบครบวงจร รวมถึงธุรกิจขายฝากทองคำและเครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบ ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทที่ได้รับการยอมรับ 5 ตราสิน ค้า ได้แก่ AURORA เซ่งเฮง ทองมาเงินไป ของขวัญ by AURORA และ AURORA Diamond ณ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทมีเครือข่าย สาขาทั่วประเทศจำนวน 265 สาขา และมีแผนขยายสาขาและธุรกิจที่เกี่ยวข้องโดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพร้านสาขา และ การนำ Big Data มาใช้ในการวางแผนกลยุทธ์ ในการนำเสนอสินค้าและบริการในอนาคต
AURA มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO 1,334 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิมจำนวน 1,000 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรกจำนวน 334 ล้านหุ้น โดยเสนอต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัด จำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนสถาบัน ผู้มีอุปการคุณ บุคคลที่มีความสัมพันธ์ และพนักงานของบริษัท และบริษัทย่อย ในระหว่างวันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2565 ในราคาหุ้นละ 10.90 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 3,640.60 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 14,540.60 ล้านบาท โดยมี บล.กสิกรไทย เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
นายอนิวรรต ศรีรุ่งธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ออโรร่า ดีไซน์ เปิดเผยว่า ด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจมา ยาวนานเกือบ 50 ปี บริษัทมุ่งเป็นผู้นำในการส่งมอบของขวัญแห่งความสุขที่มีคุณค่า เน้นการสร้างการรับรู้แบรนด์ AURORA ที่สามารถ ครองใจลูกค้า รวมทั้งเป็นผู้นำในธุรกิจขายฝาก บริษัทมีแผนที่จะนำเงินระดมทุนไปขยายสาขาร้านทองและกลุ่มธุรกิจอื่นให้ครอบคลุมจังหวัด สำคัญทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายขยายสาขาจำนวน 409 สาขา และเพิ่มธุรกิจลูกหนี้ขายฝากเป็นมูลค่า 3,846 ล้านบาท ภายในปี 2567
ทั้งนี้ AURA มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ กลุ่มครอบครัวศรีรุ่งธรรม ถือหุ้น 61.99% AURA มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองต่างๆ ตามกฎหมาย และข้อบังคับของบริษัทฯ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงิน แผนการลง ทุน และปัจจัยอื่น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ย. 65)
Tags: AURA, IPO, SET, ตลท., อนิวรรต ศรีรุ่งธรรม, แมนพงศ์ เสนาณรงค์