กระทรวงมหาดไทยของอังกฤษเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (24 พ.ย.) ว่า ชาวฮ่องกงที่ถือหนังสือเดินทางแบบสัญชาติบริติชโพ้นทะเล (British National Overseas หรือ BNO) ยื่นขอวีซ่าลดลง 44% ในไตรมาส 3/2565 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้ที่สนใจโครงการดังกล่าวลดน้อยลง หลังจากรัฐบาลอังกฤษงัดนโยบายดังกล่าวออกมาใช้รับมือกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงได้ไม่ถึง 2 ปี
ทั้งนี้ กระทรวงฯระบุว่า มีผู้ถือหนังสือเดินทาง BNO เพียง 10,100 คนที่ยื่นขอวีซ่าระยะยาวพิเศษในไตรมาส 3/2565 ซึ่งเป็นจำนวนน้อยที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเปิดโครงการดังกล่าวในเดือนม.ค. 2563 เมื่อเทียบรายไตรมาส
รายงานระบุว่า จนถึงขณะนี้อังกฤษได้รับคำร้องขอวีซ่าในโครงการ BNO ทั้งหมด 150,600 ราย ขณะที่ รัฐบาลอังกฤษคาดการณ์ว่าตัวเลขจะอยู่ที่ 320,000 รายในช่วง 5 ปีแรก โดยคำร้องประมาณ 98% ได้รับการอนุมัติแล้ว
อนึ่ง รัฐบาลอังกฤษ ภายใต้การนำของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของอังกฤษในขณะนั้น ได้ประกาศโครงการวีซ่าดังกล่าว หลังจากที่ในปี 2563 จีนได้บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงกับฮ่องกง โดยนายจอห์นสันระบุว่า กฎหมายดังกล่าวเป็น “การละเมิดอย่างร้ายแรง” ต่อข้อตกลงในการส่งมอบฮ่องกงให้กับจีน ขณะเดียวกัน จีนก็กล่าวหาว่า อังกฤษละเมิดสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะไม่ชักจูงพลเมืองออกนอกประเทศ พร้อมทั้งไม่ยอมรับหนังสือเดินทาง BNO
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 พ.ย. 65)
Tags: BNO, กฎหมายความมั่นคง, กระทรวงมหาดไทย, บอริส จอห์นสัน, วีซ่า, หนังสือเดินทาง, อังกฤษ, ฮ่องกง