เงินบาทเปิด 38.01 รอมติเฟดกลางสัปดาห์ คาดกรอบ 37.90-38.15

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 38.01 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าเล็กน้อยจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 38.03 บาท/ดอลลาร์

โดยตลาดรอดูผลประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในคืนวันพุธ ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% แต่จะส่งสัญญาณเรื่องอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือน ธ.ค.อย่างไรบ้าง จากที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% รวมถึงมาตรการแก้ปัญหาเรื่องอัตราเงินเฟ้อ

“บาทแข็งค่าเล็กน้อยจากเย็นวานนี้ ตลาดรอดูผลประชุมเฟดคืนวันพุธว่าจะส่งสัญญาณเรื่องดอกเบี้ยอย่างไร”

นักบริหารเงิน กล่าว

ปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตาดูช่วงนี้คือ กระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างประเทศ ทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 37.90 – 38.15 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (31 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.11446% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.48787%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 148.76 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 148.26 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 0.9885 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 0.9922 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 37.018 บาท/ดอลลาร์
  • ปลัดกระทรวงการคลัง เผยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป คาดว่าจะไม่ทันเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในวันนี้ เนื่องจากต้องหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยก่อน แต่หากฝ่ายนโยบายต้องการให้ดำเนินการเร็วที่สุดก็สามารถเร่งเสนอ ครม.พิจารณาเพื่อรีบดำเนินการได้ทันที
  • กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 37.60-38.40 บาท/ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยสำคัญอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 1-2 พ.ย. ที่คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 75bp เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกันสู่ระดับ 3.75-4.00%
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (31 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมครั้งนี้
  • ผลสำรวจจากมาร์กิตและไฉซิน เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน ต.ค.ของจีนเพิ่มขึ้นแตะระดับ 49.2 จากระดับ 48.1 ในเดือน ก.ย. โดยดัชนี PMI เดือน ต.ค.อยู่ในระดับสูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 49
  • สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 10.7% ในเดือน ต.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่ยูโรสแตทเริ่มรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2540 หลังจากแตะระดับ 9.9% ในเดือน ก.ย.
  • กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า รัฐบาลเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราครั้งใหญ่ในเดือนต.ค. โดยใช้วงเงินสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 6.35 ล้านล้านเยน (4.3 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือราว 1.6 ล้านล้านบาท
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ ได้แก่ ธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือน ต.ค. และสหรัฐเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือน ต.ค., ดัชนีภาคการผลิตเดือน ต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน ก.ย. และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือน ก.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 พ.ย. 65)

Tags: ,
Back to Top