ผลสำรวจประจำปีของหอการค้าอเมริกันในเซี่ยงไฮ้และพีดับบลิวซี ไชน่าพบว่า มุมมองเชิงบวกของบริษัทสหรัฐในจีนนั้นได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องมาจากความท้าทายด้านการแข่งขัน เศรษฐกิจ และกฎระเบียบ ประกอบกับความตึงเครียดจากการบังคับใช้มาตรการโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีน
ทั้งนี้ ผลสำรวจระบุว่า บริษัทเพียง 55% จาก 307 แห่งที่เข้าร่วมการสำรวจระบุว่า ยังคงมีความเชื่อมั่นเชิงบวกต่อแนวโน้มธุรกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 23 ปีของการสำรวจ และยังย่ำแย่กว่าระดับในปี 2563 ซึ่งเริ่มมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และในปี 2562 ซึ่งเกิดความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
นอกจากนี้ ประมาณครึ่งหนึ่งของบริษัทที่ได้รับการสำรวจระบุว่า ความเชื่อมั่นของสำนักงานใหญ่ต่อการจัดการเศรษฐกิจของจีนได้ลดลงในปีที่ผ่านมา และมีเพียง 18% เท่านั้นที่ยังคงให้จีนติดอันดับ 1 ในแผนการลงทุนทั่วโลก ซึ่งลดลงจาก 27% ในปีที่แล้ว
บริษัทที่ตอบแบบสำรวจระหว่างวันที่ 14 ก.ค. – 18 ส.ค.นั้นระบุว่า การแข่งขันภายในประเทศถือเป็นความท้าทายสูงสุดในอีก 5 ปีข้างหน้า ตามมาด้วยความตึงเครียดระหว่างสหรัฐ-จีน, การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และการควบคุมการเดินทางและมาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดโรคโควิด-19
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายฌอน สไตน์ ประธานหอการค้าแถลงต่อสื่อมวลชนว่า “สิ่งที่ทำให้ธุรกิจจำนวนมากตื่นตัวตลอดเวลาคือการแข่งขัน และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคู่แข่งชาวจีน”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ต.ค. 65)
Tags: จีน, มาตรการโควิดเป็นศูนย์, สหรัฐ, หอการค้าอเมริกัน