บริษัทเน็ตฟลิกซ์ ผู้ให้บริการสตรีมมิงภาพยนตร์รายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 3.10 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของเรฟินิทีฟ (Refinitiv) คาดการณ์ไว้ที่ 2.13 ดอลลาร์ และรายได้อยู่ที่ 7.93 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 7.837 พันล้านดอลลาร์
ส่วนจำนวนสมาชิกทั่วโลกของเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 2.41 ล้านรายในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.09 ล้านราย
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวช่วยหนุนราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์พุ่งขึ้นกว่า 14% ในการซื้อขายหลังตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการไปแล้วในวันอังคาร
เน็ตฟลิกซ์ระบุว่า การเติบโตของจำนวนสมาชิกส่วนใหญ่ในไตรมาส 3 มาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยจำนวนสมาชิกในภูมิภาคแห่งนี้เพิ่มขึ้นถึง 1.43 ล้านราย ขณะที่สหรัฐ-แคนาดาเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตน้อยที่สุด โดยมีจำนวนสมาชิกเน็ตฟลิกซ์เพิ่มขึ้นเพียง 100,000 ราย
นอกจากนี้ เน็ตฟลิกซ์กล่าวว่า ซีรีส์และภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น “Stranger Things” ซีซัน 4, “The Gray Man” และ “Purple Hearts” ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3
เน็ตฟลิกซ์คาดการณ์ว่า บริษัทจะมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น 4.5 ล้านรายในไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2566 และคาดว่ารายได้ของบริษัทจะอยู่ที่ 7.8 พันล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากแรงกดดันด้านค่าเงินในต่างประเทศ
ก่อนหน้านี้ เน็ตฟลิกซ์เปิดเผยว่า จะเริ่มให้บริการสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณาในราคาราว 7 ดอลลาร์ต่อเดือนในเดือนพ.ย.นี้ โดยหวังที่จะดึงดูดสมาชิกรายใหม่ ๆ หลังจากบริษัทสูญเสียลูกค้าไปในช่วงครึ่งปีแรก
สำหรับค่าบริการแพ็กเกจมาตรฐานพร้อมโฆษณา (Basic with Ads) จะอยู่ที่ระดับ 6.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งถูกกว่าราคาต่ำสุดของแพ็กเกจแบบไม่มีโฆษณาอยู่ราว 3 ดอลลาร์ โดยแพ็กเกจใหม่นี้จะเริ่มให้บริการใน 12 ประเทศรวมถึงสหรัฐ, บราซิล, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
ทั้งนี้ สมาชิกที่สมัครแพ็กเกจดังกล่าวจะเห็นโฆษณาราว 4-5 นาทีต่อชั่วโมง แต่ภาพยนตร์ที่เพิ่งออกฉายใหม่นั้นจะมีการจำกัดโฆษณาเพื่อรักษาอรรถรสในการชมภาพยนตร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ต.ค. 65)
Tags: NETFLIX, ค่าบริการ, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก, หุ้นเน็ตฟลิกซ์, เน็ตฟลิกซ์