ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงเกือบ 100 จุด ก่อนเฟดเริ่มประชุมวันนี้

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงเกือบ 100 จุด ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ ซึ่งคาดว่าเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ณ เวลา 18.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 92 จุด หรือ 0.3% สู่ระดับ 31,025 จุด

คาดว่าการซื้อขายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะถูกกดดันจากการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75-1.00% ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อนโยบายการเงินของเฟด พุ่งขึ้นเหนือระดับ 3.9% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 ในวันนี้ และอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปี

การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวสูงกว่าระยะยาว ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย ท่ามกลางการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 82% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 18% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00%

หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. และหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ก็จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 40 ปี

สถาบันวิจัย CFRA ระบุว่า หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.75% ในการประชุมสัปดาห์นี้ ก็จะเป็นการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดเกินไป และจะฉุดให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททรุดตัวลง

“เราคิดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% จะสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาด และเป็นการบ่งชี้ว่าเฟดมีปฏิกริยามากเกินไปต่อข้อมูลเศรษฐกิจ และลดโอกาสที่จะช่วยให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป” นายแซม สโตวอลล์ นักวิเคราะห์จาก CFRA ระบุในรายงาน

ทั้งนี้ ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจำนวน 56 ครั้งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1% เพียง 7 ครั้ง และหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 2.4% ภายในเวลา 1 เดือน, ร่วงลง 1.3% ในเวลา 3 เดือน และฟื้นตัวขึ้น 0.1% ในเวลา 6 เดือน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 65)

Tags:
Back to Top