นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายใช้นโยบายเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ หลังจากข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า การเดินทางและการใช้จ่ายยังคงทรุดตัวลงในช่วงวันหยุดยาว 3 วันที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากการใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ข้อมูลจากกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนระบุว่า รายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดเทศกาลไหว้พระจันทร์ (Mid-Autumn Festival) ปีนี้ลดลง 22.8% สู่ระดับ 2.87 หมื่นล้านหยวน (4.1 พันล้านดอลลาร์) จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และเมื่อเทียบกับในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2562 รายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้ทรุดตัวลง 39.4% และทรุดตัวลงรุนแรงกว่าในปีที่แล้วซึ่งปรับตัวลง 21.4% ส่วนจำนวนทริปการท่องเที่ยวของจีนในช่วงวันหยุดเทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้ลดลง 16.7% สู่ระดับ 73.4 ล้านทริปเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ทั้งนี้ นายหลี่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเพิ่มความพยายามในการแก้ปัญหาภาวะอุปสงค์ซบเซาภายในประเทศ และผลักดันการอุปโภคบริโภคให้เป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น โดยนายหลี่ให้คำมั่นว่า รัฐบาลจีนจะเดินหน้าเพิ่มการลงทุนเพื่อกระตุ้นอุปสงค์และฟื้นฟูความเชื่อมั่น
นอกจากนี้ นายหลี่กล่าวว่า จีนจะใช้มาตรการที่หลากหลายเพื่อให้การเติบโตของเศรษฐกิจ การจ้างงาน และเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ โดยเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความผันผวนเล็กน้อยในช่วงที่กำลังฟื้นตัว และเศรษฐกิจในปัจจุบันอยู่ในภาวะสำคัญที่จะต้องใช้มาตรการเร่งด่วน
เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงในทุก ๆ ด้าน โดยกิจกรรมในภาคโรงงานหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนส.ค. ขณะที่ยอดส่งออกชะลอตัวลงมากกว่าคาด ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และการปล่อยกู้ในภาคธนาคารชะลอตัวลง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอในระบบเศรษฐกิจจีน
นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเพียง 3.5% ในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 5.5%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.ย. 65)
Tags: การท่องเที่ยว, จีน, หลี่ เค่อเฉียง, เทศกาลไหว้พระจันทร์