สำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทม์รายงานในวันนี้ (12 ก.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซียกำลังพิจารณาดำเนินการตามรอยอินเดียและจีน ด้วยการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย เพื่อบรรเทาแรงกดดันที่เพิ่มสูงขึ้นจากต้นทุนพลังงานที่พุ่งทะยานขึ้น
“เราพิจารณาทุกทางเลือกอยู่เสมอ หากประเทศใดเสนอราคาพลังงานที่ดีกว่า เราย่อมรับซื้อ”
ปธน.วิโดโดให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทม์เมื่อถูกถามว่า อินโดนีเซียจะซื้อน้ำมันจากรัสเซียหรือไม่
เมื่อช่วงต้นเดือนก.ย.นี้ ปธน.วิโดโดตัดสินใจปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิงที่รัฐบาลให้เงินอุดหนุน 30% พร้อมระบุว่า การขึ้นราคาเชื้อเพลิงนี้เป็น “หนทางสุดท้าย” ของเขา เพราะทนรับแรงกดดันทางการคลังไม่ไหวอีกต่อไป ทำให้ประชาชนไม่พอใจตบเท้ากันออกมาเดินขบวนประท้วงทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซียจะถูกสหรัฐคว่ำบาตรหากซื้อน้ำมันดิบรัสเซียที่ราคาสูงเหนือเพดานที่กลุ่มประเทศ G7 กำหนด โดยขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดเพดานดังกล่าวอย่างเป็นทางการ
ในเดือนส.ค. นายซานเดียกา อูโน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซียระบุว่า อินโดนีเซียได้รับข้อเสนอจำหน่ายน้ำมันดิบที่ราคาลด 30% จากรัสเซีย โดยในเวลาต่อมา เปอร์ตามินา บริษัทน้ำมันของรัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกมาระบุว่า กำลังพิจารณาถึงความเสี่ยงของการซื้อน้ำมันรัสเซีย
อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายงานอัตราเงินเฟ้อรายปีที่ 4.69% ในเดือนส.ค. ซึ่งสูงเหนือกรอบเป้าหมาย 2% – 4% ของธนาคารกลางอินโดนีเซียติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยได้รับแรงกดดันจากอาหารที่มีราคาแพงขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ย. 65)
Tags: น้ำมัน, รัสเซีย, อินโดนีเซีย, โจโค วิโดโด