บล.ดาโอ(ประเทศไทย) ระบุในบทิวเคราะห์ว่า ดาโอยังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มท่องเที่ยวเป็น “มากกว่าตลาด” จาก 1) การผ่อนคลายนโยบายในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหลักมีสัดส่วนในปี 62 สูงถึง 69% ซึ่งจะช่วยให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้มากขึ้น และจะเป็น upside เพิ่มต่อประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวของเรา 2) คาดประเทศไทยจะเปิดประเทศเต็มรูปแบบได้หลังจากที่มีการประกาศโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งเชื่อว่าจะเริ่มได้ในวันที่ 1 ต.ค. 65
และ 3) คาดจีนจะทยอยเปิดประเทศได้ในช่วงไตรมาส 4/65 ถือว่าเร็วกว่าที่เดิมที่เราคาดว่าจะเปิดในปี 66 จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 7 เดือนแรกของปี 65 ที่อยู่ที่ 3.2 ล้านคน คิดเป็น 53% ของประมาณการทั้งปี 65 และคาดว่าเดือน ส.ค.65 จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นมาแตะที่ระดับ 1.3 ล้านคน
ทำให้เรามีการปรับประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวปี 65 – 68 เพิ่มขึ้น โดยในปี 65 เพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคน จากเดิมที่คาดไว้ที่ 6 ล้านคน และปรับจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 66 เพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านคน จากเดิมที่คาดไว้ที่ 18 ล้านคน และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะกลับมาสู่ระดับเดียวกันกับปี 62 ที่ 40 ล้านคน ในปี 67 (เร็วกว่าเดิมที่คาดไว้ในปี 68)
ราคาหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวช่วง 3 เดือนที่ผ่านปรับตัวเพิ่มขึ้น +3% เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้ดี และผลประกอบการในไตรมาส 2/65 ออกมาฟื้นตัวได้ดีกว่าคาดแม้ว่าจะเป็นช่วง Low season
โดยกลุ่มท่องเที่ยวเราเลือก CENTEL และ ERW เป็น Top pick โดยเราชอบ CENTEL (ซื้อ/เป้า 50.00 บาท) เพราะธุรกิจโรงแรมที่จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าคาด และธุรกิจอาหารที่ยังเติบโตได้ดี ส่วน ERW (ซื้อ/เป้า 4.80 บาท) เพราะเป็น Pure hotel โดยเราคาดว่า H2/65 จะฟื้นตัวได้ดีจากการเข้าสู่ช่วง High season ของไทย ซึ่ง ERW จะได้รับผลประโยชน์สูงที่สุดเพราะมีสัดส่วนโรงแรมในประเทศไทยสูงที่สุดในกลุ่มที่ 88%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ส.ค. 65)
Tags: CENTEL, ERW, บล.ดาโอ, หุ้นท่องเที่ยว, หุ้นไทย