- ศบค.สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย วันนี้ (11.30 น.)
- ผู้ติดเชื้อสะสม 3,135 คน (+0)
- ผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ติดต่อกันวันที่ 3
- ไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศต่อเนื่องเป็นวันที่ 23
- รักษาหายแล้ว 2,996 คน (+3)
- ผู้ป่วยรักษาอยู่โรงพยาบาล 81 คน (-3)
- เสียชีวิตสะสม 58 คน (+0)
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า ไม่พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ ทั้งจากสถานกักกันตัวของรัฐ (State Quarantine) และไม่พบผู้ป่วยภายในประเทศต่อเนื่องเป็นเวลา 23 วันแล้ว
สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,135 ราย จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 2,996 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 81 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย
“แม้จะไม่พบผู้ป่วยต่อเนื่องกันมา 23 วันแล้ว แต่นักวิชาการบอกจะให้ดีต้องรอสองรอบหรือ 28 วัน คงต้องอยู่แบบนี้ไปยาวๆ สักพัก ขอให้รักษาสถานะตัวเลขที่เป็นศูนย์ต่อเนื่องไปให้ได้ เพื่อให้เป็นสถิติที่ดีงามของทั้งโลก นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ จีนเคยมีสถิติที่นานกว่าเรา แต่กลับมาติดเชื้อใหม่ได้”
นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
พร้อมยกตัวอย่างประเทศนิวซีแลนด์ ที่กลับมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย นับเป็นครั้งแรกในรอบ 24 วันที่มีการพบผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ โดยผู้ติดเชื้อทั้ง 2 รายเดินทางมาจากสหราชอาณาจักร
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก มีผู้ป่วยยืนยัน 8,257,885 ราย เสียชีวิตแล้ว 445,986 ราย โดยสหรัฐมีผู้ป่วยยืนยันมากที่สุด 2,208,400 ราย และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 119,132 ราย ส่วนประเทศที่มีสถานการณ์น่าเป็นห่วงเนื่องจากมีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ได้แก่ บราซิล มีผู้ป่วยรายใหม่ 37,278 ราย และ อินเดีย 11,135 ราย ขณะที่ไทยอยู่อันดับที่ 90
สถานการณ์ผู้เดินทางเข้าประเทศตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.-16 มิ.ย.63 มียอดคัดกรองรวม 41,345 ราย กลับบ้านแล้ว 31,060 ราย พบผู้ป่วยยืนยัน 198 ราย คงเหลือผู้ที่กักตัว 10,285 ราย รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 117 ราย โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 1,000 บาท/คืน ซึ่งเป็นการนำงบประมาณไปใช้จ้างงานคนที่มาดูแล
โฆษก ศบค.กล่าวว่า การป้องกันการแพร่ระบาดภายในประเทศต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการและประชาชนในการลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ เพื่อเป็นข้อมูลในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่จะดูแลและป้องกันการแพร่ระบาด โดยพบว่าจากการตรวจสอบร้านค้า 163,746 แห่ง มีการลงทะเบียนแล้ว 97,040 แห่ง คิดเป็นสัดส่วน 55% และไม่ลงทะเบียน 78,693 แห่ง คิดเป็นสัดส่วน 45% ขณะที่มีร้านค้าทั้งหมดนับล้านแห่ง โดยขณะนี้กำลังพัฒนาให้เป็นเครื่องหมายรับประกันความปลอดภัยจากโรคโควิด-19, สามารถใช้จองคิวใช้บริการ และออกหมายเลขประจำตัวให้ผู้ใช้บริการ
“การลงชื่อและเบอร์โทรศัพท์ไว้ในสมุดไม่มีใครดูแลความปลอดภัยเรื่องข้อมูลส่วนตัว และหากเกิดเหตุก็ต้องมาตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง…วันนี้ยังไม่มีการติดเชื้อก็ยังไม่เห็นประโยชน์ กรณีเกิดระบาดระลอกใหม่ที่ตลาดซินฟาตี้ของจีนต้องตรวจหาเชื้อถึง 4 หมื่นราย…”
นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวพบเชื้อโควิด-19 ในปลาแซลมอนดิบนั้น ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนจากองค์การอนามัยโรค แต่แนวทางที่ดีคือการรักษาอนามัยสุขบุคคล “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ทำความสะอาดพื้นผิว” ตามแนวทางที่เคยปฏิบัติมาก่อนหน้านี้ก็จะมีความปลอดภัย
สำหรับการรับคนไทยกลับจากประเทศอียิปต์นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ยืนยันที่จะให้การช่วยเหลือคนไทยทุกคนเต็มที่ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่าขณะนี้มีคนไทยในอียิปต์ 4,137 ราย ต้องการเดินทางกลับ 2,087 ราย ในจำนวนตรวจพบเชื้อ 38 รายจึงต้องพักรักษาตัวให้หายก่อนเดินทางกลับ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับกลับมาแล้ว 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.63 และวันที่ 9 มิ.ย.63
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มิ.ย. 63)
Tags: COVID-19, ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน, ศบค., โควิด-19