นายสัตวแพทย์ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ (BIS) เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจหลักทางด้านปศุสัตว์ที่มีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรคลี่คลาย ในขณะเดียวกันจะไม่มีการลดราคาในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาและวัคซีนสัตว์ (Animal Health) เพื่อระบายสต็อกสินค้าที่ใกล้หมดอายุ
นอกจากนี้บริษัทได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีมาร์จิ้นสูง ซึ่งจะช่วยผลักดันความสามารถในการทำกำไรในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งโดยปกติรายได้ทั้งปีจะมาจากสัดส่วนรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกประมาณ 40-45% ของรายได้รวมทั้งปี ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีสัดส่วนรายได้ที่ประมาณ 55-60%
ขณะที่วันนี้บริษัทได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ “Canna BIS” เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงผสม CBD สำหรับสุนัข และแมว ซึ่งเป็นการคิดค้นพัฒนาสูตรโดยอาจารย์สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน CBD ในสัตว์ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดย BIS ได้มีการทำ MOU วิจัยพัฒนาร่วมกับคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
สำหรับ “Canna BIS” ผลิตภัณฑ์ผสม CBD กลุ่มแรกที่จะออกมาวางจำหน่ายในช่วงไตรมาส 4/65 ประกอบด้วย 1.แชมพู Canna BIS Hypoallergenic 2.แชมพู Canna BIS Anti-itch 3.โฟมอาบน้ำแห้ง Canna BIS และ 4.Canna BIS CBD Isolated Oil โดยบริษัทมีความคาดหวังจะได้ส่วนแบ่งทางการตลาด (Market share) ที่ประมาณ 10-20% ของมูลค่าตลาดรวมในกลุ่มเพื่อการรักษาสัตว์เลี้ยงที่มีมูลค่า 450 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทได้เตรียมแผนการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ Canna BIS โดยใช้จุดแข็งที่บริษัทมีฐานลูกค้าเดิมของบริษัท คือเครือข่ายโรงพยาบาลสัตว์และคลินิครักษาสัตว์ทั่วประเทศกว่า 1,000 แห่ง ซึ่งมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่ดี และ ทีมงานของบริษัทเป็นสัตว์แพทย์ จึงมีความเข้าใจความต้องการของสัตว์แพทย์เจ้าของโรงพยาบาลและคลินิคสัตว์เลี้ยงเป็นอย่างดี นอกจากนี้ BIS เตรียมแผนงานประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างแบรนด์ สร้างการรับรู้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเข้าใจและมั่นใจในคุณภาพของ ผลิตภัณฑ์ Canna BIS และ มีความเชื่อมั่นว่า จะได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี ปัจจุบันตลาดสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตค่อนข้างสูงทั้งในประเทศอย่างต่อเนื่อง
นายสัตวแพทย์ธนวัฒน์ กล่าวถึงภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี 65 ว่า บริษัทยังคงมั่นใจจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมจะเติบโตประมาณ 20%
รายได้หลักคิดเป็นประมาณ 80% จะมาจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำของอุตสาหกรรมอาหาร โดยผลิตภัณฑ์ยา วัคซีน และเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์และสัตว์เลี้ยง มีแนวโน้มการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ การท่องเที่ยว กำลังซื้อของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ฟาร์มสุกรกำลังเริ่มฟื้นตัว ทำให้มีความต้องการในผลิตภัณฑ์ยา วัคซีน วิตามินและเสริมอาหาร ตลอดจนชุดตรวจโรคต่างๆ เพิ่มมากขึ้นตามจำนวนสุกร ทำให้ BIS ซึ่งอยู่ในห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมอาหารได้รับประโยชน์โดยตรง
และ สัดส่วนรายได้อีก 20% มาจากกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่มีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากขนาดตลาดรวมที่มีราว 50,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดว่าในอนาคตสัดส่วนรายได้จากกลุ่มสัตว์เลี้ยงจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ส.ค. 65)
Tags: BIS, ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ, หุ้นไทย, ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์