ไทยสร้างไทย เตรียมประชุมใหญ่เลือกหัวหน้าพรรค ก.ย.นี้ ลั่นพร้อมสู้ทุกกติกา

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เปิดเผยว่า ในเดือนหน้าจะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ซึ่งจะมีวาระการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค ส่วนการตั้งเป้าจำนวนที่นั่ง ส.ส.ที่พรรคจะได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้นยังไม่สามารถบอกได้ แต่ยอมรับว่าอยากได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรให้มากที่สุดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะกติกาใดก็จะเดินหน้าส่งผู้สมัครทุกพื้นที่เพื่อให้เป็นทางเลือกของประชาชน

ขณะที่ในสัปดาห์หน้าจะแถลงข่าวเรื่องการปลดล็อกกฎหมาย ทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และปลดล็อกกฎหมายที่ทำให้คนทำมาหากินได้

ด้านนายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมยุทธศาตร์ขับเคลื่อนประเทศฯ กล่าวถึงสูตรคำนวณหา ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า ไม่ว่าจะสูตรหารด้วย 500 หรือหารด้วย 100 ประเด็นใหญ่ก็คือ ควรจะมี ส.ส.พึงมีหรือไม่ คำว่า ส.ส.พึงมีหมายความว่า คะแนนเสียงที่ได้รับต้องสัมพันธ์กับที่นั่งที่ได้รับ ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2560 ก่อนที่จะมีการแก้ไขได้กำหนดเป็นเจตนารมณ์ชัดเจน คือ ไม่มีพรรคการเมืองใดที่ได้ที่นั่งมากกว่าเสียงที่ได้รับ ยกเว้นไปได้ที่เขตเลือกตั้ง เพราะไม่สามารถลบออกไปได้

ดังนั้นพรรคใดได้เขตเลือกตั้งมากก็อาจจะได้บัญชีรายชื่อน้อยลงเพื่อให้สมดุลกัน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ว่าคะแนนเสียงของประชาชนจะต้องมีคนที่เป็นตัวแทนเข้าไป เพราะอาจจะเกิดเหตุที่บางพรรคที่มีแต่เขตเลือกตั้งและไม่มีบัญชีรายชื่อ เช่น พรรคการเมืองนั้นได้คะแนน 3-4 ล้านคะแนน แต่ไม่ชนะเขตเลือกตั้งเลยแม้แต่เขตเดียว ก็หมายความว่า พรรคที่ได้คะแนน 3-4 ล้านคะแนน ไม่มี ส.ส.เลย แต่บางพรรคที่ได้คะแนนไม่กี่แสนก็อาจจะมี ส.ส. 1-2 คน เป็นต้น

นายโภคิน กล่าวว่า พอมีการเสนอแก้ไขกฎหมายนี้ พรรคฯ ก็เห็นว่า จะเลือกแบบใดก็ได้ แต่ต้องยึดระบบที่ถูกต้อง วันนี้มาเถียงกันว่าจะมี ส.ส.พึงมีหรือไม่ หากมี ส.ส.พึงก็ใช้สูตรหารด้วย 500 ถ้าไม่ต้องมี ส.ส.พึงมาก็หารด้วย 100 เหมือนรัฐธรรมนูญปี 40 แต่ทั้งหมดนี้ พรรคฯ มองว่า พรรคการเมืองที่มีอำนาจมุ่งหวัง แต่จะสร้างประโยชน์ให้พรรคตัวเอง โดยไม่ได้มองระบบที่เป็นธรรม ไม่ได้มองระบบเลือกตั้งที่เป็นธรรมและสะท้อนเสียงของประชาชนในสัดส่วนที่เหมาะสมทั้งประเทศได้ แต่พรรคฯ ไม่กังวลจะใช้สูตรใดก็ได้

สำหรับปรากฎการณ์พรรคการเมืองใหม่ที่เกิดขึ้นมากมายช่วงนี้ นายโภคิน กล่าวว่า ไม่ใช่สิ่งเสียหาย เพราะมีผู้คนมาอาสาเข้ามาทำงานการเมือง แต่พรรคฯ จะร่วมสร้างประเทศไทยให้ดีที่สุดเพื่อลูกหลาน ดังนั้นพรรคการเมืองไม่ใช่มาทำเพื่อตัวเอง แต่มาทำเพื่อคนรุ่นต่อไป ไม่ว่าจะสร้างนโยบายอะไรก็แล้วแต่ แต่หากไม่ดูแลคนทุกช่วงวัย จะไปมีประโยชน์อะไร พรรคฯ จึงพยายามเสนอสิ่งเหล่านี้ ส่วนจะต้องมีการปรับตัวหรือไม่นั้นก็จะทำให้เห็นว่าพรรคการเมืองเป็นที่รวมของคนทุกแวดวงมาร่วมกันทำงาน และพรรคฯ จะรับฟัง โดยมีอุดมการณ์แน่ชัดว่าจะต่อสู้กับอำนาจนิยม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 65)

Tags: , , , , ,
Back to Top