CryptoShot: เก็บตก Zipmex นักลงทุนต้องรอถึงเมื่อไร ?

ผ่านมากว่า 1 สัปดาห์แล้วที่ Zipmex แพลตฟอร์ม Exchange ชื่อดัง Market Share อันดับ 2 ของไทยปิดระบบการถอนเงินและสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่สามารถโอนออกมาจาก ZipUp ได้ ทำให้ผู้ใช้งานต่างหวาดกลัวไปตาม ๆ กัน

ล่าสุด กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันในกรุ๊ป Line Open Chat ที่ชื่อว่า “ผู้เสียหาย Zipmex Thailand” และร่วมกันเดินทางไปร้องเรียนที่ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้หารือ แจ้งข้อสงสัย คำถามต่าง ๆ ที่ต้องการให้ทาง Zipmex อธิบาย ซึ่งทาง Zipmex ก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ามารับฟังปัญหาและข้อสงสัยของกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งบรรยากาศในวันนั้นก็ค่อนข้างกดดัน

และในเย็นวันเดียวกันทาง นายเอกลาภ ยิ้มวิไล CEO ของ Zipmex แถลงผ่าน Live ของ Facebook อีกครั้ง โดยมีเนื้อหา ใจความสำคัญ ดังนี้

1) เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 65 ที่บริษัทได้มีการประกาศถึงการลงทุนของผู้สนใจ ขณะนี้ได้มีการลงนามใน MOU เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลำดับถัดไปจะเป็นการ Due Deligence ซึ่งทาง Zipmex จะทำการอัพเดทให้ลูกค้าทราบถึงสถานการณ์การเจรจาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ทางบริษัทไม่สามารถเปิดเผยชื่อบริษัทที่จะเข้ามาลงทุนได้เนื่องจากสัญญาทางกฎหมาย

2) การประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ ทาง Zipmex ได้มีการติดต่อและแจ้งอัพเดทต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อย่างต่อเนื่อง ทั้งด้วยวาจาและเอกสาร โดยบริษัทได้ทราบถึงเหตุการณ์ที่มีลูกค้าได้รวมตัวเดินทางไปร้องเรียนกับกองบังคับการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีแล้ว ทางบริษัทได้มีการส่งตัวแทนเพื่อเข้ารับฟังปัญหา และชี้แจงข้อมูลเพื่อความความกังวล

3) บริษัทได้ทำการนำสินทรัพย์ไปฝากไว้ที่ Babel Finance และ Celsius ตั้งแต่เปิดให้บริการ ZipUp+ จนเมื่อ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทาง Celsius ก็ได้มีการระงับถอนเงิน ทาง Zipmex ได้ทำการประสานงาน และพิจารณาจากงบดุล ณ ตอนนั้น ทาง Zipmex สามารถรองรับการสูญเสียที่เกิดขึ้นได้ ในส่วนของ Babel Finance ที่ได้มีการระงับการถอน แต่ก็ยังไม่ได้มีการยื่นล้มละลายแต่อย่างใด ทาง Zipmex ได้มีการพูดคุยประสานงานอยู่ตลอด และเมื่อ 20 ก.ค. การเจรจาเป็นไปในเชิงลบ ทางบริษัทจึงได้แจ้ง ก.ล.ต. และทำการแถลงต่อลูกค้า และได้ดำเนินคดีความกับทาง Babel Finance ต่อ

4) การให้บริการและอนาคตของเหรียญ ZMT : ถึงแม้ Zipmex จะได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย แต่บริษัทก็ยังคงมี Ecosystem ที่แข็งแกร่ง และในฐานะของ Exchange ทางบริษัทได้ทำการนำเหรียญต่าง ๆ กลับมาซื้อขายได้ และถอนเงินผ่าน Trade Wallet ได้ตามปกติ และระหว่างนี้อยู่ระหว่างการจัดทำสายด่วน (Hotline) คาดว่าจะเสร็จภายในสัปดาห์นี้ และ บริษัทก็ขอยืนยันถึงความโปร่งใสและจะทำการอัพเดตสถานการณ์แก่ลูกค้าทุกท่านทราบเป็นระยะ

จากการแถลงครั้งนี้ ก็มีคอมเมนท์แตกออกเป็นหลายด้าน ขณะที่สำนักงาน ก.ล.ต.ก็ได้มีหนังสือให้บริษัทจัดให้มีระบบการให้บริการติดต่อลูกค้าและจัดการเรื่องร้องเรียนให้เพียงพอ อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งต้องคำนึงถึงการคุ้มครองประโยชน์ของลูกค้า ทั้งนี้สำนักงาน ก.ล.ต. ก็ได้จัดทำแบบฟอร์ม โดยผู้เสียหายสามารถกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มได้ที่เว็บไซต์ สำนักงาน ก.ล.ต. หุ้น Coinbase ร่วงหนัก หลังเจอ ก.ล.ต. ตรวจสอบ

จากที่ก่อนหน้านี้ ที่ทาง ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้มีการตรวจสอบ Coinbase, Crypto Exchange ชื่อดังที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ว่าอาจมีการอนุญาตให้ซื้อขายโทเคนหลายตัวที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์อย่างไม่เหมาะสม และระหว่างที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ กำลังตรวจสอบอยู่นี้เอง ก็ทำให้หุ้น Coinbase ร่วงลงกว่า 7% เลยทีเดียว

ทั้งนี้ หุ้น coinbase ในไตรมาส 2/65 เคยทำราคาสูงสุดอยู่ที่ 180 ดอลลาร์ ก่อนที่จะร่วงลงมาเหลือเพีย 50 ดอลลาร์ ในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา

ต้องยอมรับว่าราคาคริปโทฯ สกุลหลัก ก็ต่างมีการปรับตัวร่วงลง และหากเราดูตัวเลขจาก ก.ล.ต. จะพบว่าจำนวนบัญชีซื้อขายในแต่ละเดือนมีการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่บัญชีซื้อ-ขาย Active กลับลดลง สอดคล้องกับราคาบิทคอยน์ที่ปรับร่วงลง และก็นับว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนบัญชีที่เปิด ตัวเลขเหล่านี้มันแสดงถึงความนิยมใน Cryptocurrency ที่ลดลงหรือไม่ ? CZ ยื่นฟ้อง บริษัทในเครือ Bloomberg หลังถูกกล่าวหาเป็นแชร์ลูกโซ่

Changpeng Zhao, CEO หรือ CZ และผู้ก่อตั้ง Binance ได้ทำการฟ้อง บริษัท Modern Media Company ที่เป็นสื่อภาษาจีน ของ Bloomburg ในกรณีที่บริษัทสื่อดังกล่าวได้จัดทำ Bloomberg Businessweek ฉบับที่ 250 โดยใช้ชื่อว่า “Changpeng Zhao’s Ponzi Scheme” ซึ่งมีความหมายว่า Changpeng Zhao เป็นแชร์ลูกโซ่ หรือ แชร์ลูกโซ่ของ Changpeng Zhao นั่นเอง

ทั้งนี้ CZ กล่าวว่า เป็นการทำร้ายภาพลักษณ์ ทำให้เกิดความอับอาย และก็ได้ขอให้บริษัทดังกล่าวออกมาขอโทษอย่างเป็นทางการ รวมถึงชดเชยค่าเสียหายอีกด้วย

ในส่วนของตัวหน้าปกที่มีปัญหา เดิมเป็นหน้าปก Version ภาษาจีน ซึ่งในส่วนของปกภาษาอังกฤษก็ได้มีการเปลี่ยนเป็น “Can Crypto’s Richest Man Stand the Cold?” และในส่วนชื่อที่ไม่เหมาะสมถูกเปลี่ยนเป็น “The Mysterious Changpeng Zhao” เป็นที่เรียบร้อย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top