บมจ.พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป (PRTR) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25 % ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของ PRTR ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
วัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อสำหรับจ่ายคืนหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับที่ปรึกษาทางการเงิน และ/หรือผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและการดำเนินการอื่นใดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการ
PRTR ประกอบธุรกิจ 1.ให้บริการจัดหาบุคลากรและให้บริการบริหารทรัพยากรบุคคล (HR Outsourcing) แบบครบวงจร ได้แก่ การจัดหาบุคลากรในตำแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ ให้เพียงพอกับที่ลูกค้าต้องการ การจัดทำข้อมูลเงินเดือน ค่าตอบแทน ผลประโยชน์พนักงาน การบริหารจัดการและการฝึกอบรมพนักงาน
2. ให้บริการสรรหาบุคลากร (Recruitment Services) ตั้งแต่ระดับทั่วไป (Junior Level) จนถึงระดับผู้บริหาร (Executive Level) โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้สมัครงานที่กำลังหางาน (Candidate) และบริษัทที่กำลังหาพนักงานเข้ามาทำงานในส่วนต่าง ๆ
ปัจจุบัน PRTR มีบริษัทย่อยทั้งหมด 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท จัดหางาน พีอาร์ทีอาร์ จำกัด ประกอบธุรกิจจัดหางาน (Recruitment), บริษัท จัดหางาน พีอาร์ทีอาร์ แอนด์ เอ๊าท์ซอสซิ่ง (อีสเทิร์น ซีบอร์ด) จำกัด ประกอบธุรกิจจัดหางาน (Recruitment), บริษัท เน็กซ์มูฟ แพลตฟอร์ม จำกัด ประกอบธุรกิจจัดหางาน Online Job Platform และ บริษัท เดอะแบล็คสมิธ จำกัด ประกอบธุรกิจ Training
ปี 65 PRTR ให้บริการจัดจ้างพนักงานให้แก่ลูกค้ากว่า 400 บริษัท โดยมีพนักงาน Outsource มากกว่า 15,000 ราย ได้แก่ พนักงานขาย (Product Consultant), พนักงานโรงงาน (Worker), พนักงานติดต่อลูกค้า (Customer Service) , วิศวกร/ ช่างเทคนิค (Engineer / Technician), พนักงานสำนักงาน (Office Staff) และ พนักงานไอที (IT)
กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ ทั้งธุรกิจบริหารจัดจ้างพนักงาน (Outsourcing Services) และธุรกิจการสรรหาบุคลากร (Recruitment Services) จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือบริษัทเอกชน และหน่วยงานราชการซึ่งรวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งบริษัทจะมุ่งเน้นไปยังบริเวณที่มีการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ ปริมณฑล และบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก เช่น ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา เป็นต้น
โครงสร้างผู้ถือหุ้น ได้แก่ กลุ่มนางสาวริศรา เจริญพานิช มีสัดส่วนการถือหุ้น 21.4% หลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดลงเหลือ 17.8% นางสาวจารุวรรณ พานิชเจริญ 21.4% จะลดลงเหลือ 7.5% นางอรฤดี เกตุทวี 19% จะลดลงเหลือ 14.2% นายพอล เดวิด ชอนดี้ 18.4% จะลดเหลือ 6.2% นายลักษณ์ เด่นดี 10.4% จะลดเหลือ 7.8%
ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท และมีทุนที่ชำระแล้วจำนวน 225 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 450 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ PRTR จะมีทุนชำระแล้วเต็มจำนวน
สำหรับผลการดำเนินงานปี 62-64 ของ PRTR มีรายได้จากการให้บริการ 4,525 ล้านบาท 4,866.3 ล้านบาท และ 5,555.9 ล้านบาท ตามลำดับ แบ่งรายได้จากการให้บริการจำแนกตามธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจ Outsource, ธรุกิจ Recruitment และ Training โดยรายได้ส่วนใหญ่เกิดจากลูกค้าในประเทศไทย ส่วนกำไรสุทธิ 122 ล้านบาท 120.7 ล้านบาท และ 183.2 ล้านบาท ตามลำดับ
ในงวดไตรมาส 1/65 PRTR มีรายได้จากการให้บริการ 1,422.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 140.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 11.0% จากช่วงเดีวกันของปีก่อน ขณะที่มีกำไรสุทธิ 46.3 ล้านบาท
ณ วันที่ 31 มี.ค.65 บริษัทมีสินทรัพย์ 1,302.1 ล้านบาท หนี้สินรวม 939.1 ล้านยบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 363 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ก.ค. 65)
Tags: IPO, PRTR, พีอาร์ทีอาร์, หุ้นไทย, หุ้นไอพีโอ