หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ดาวน์ตามภูมิภาค รอประชุม ECB-เฟด,น้ำมันลง-บาทอ่อนกดดัน

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ดาวน์ตามตลาดภูมิภาครอผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คืนนี้ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สัปดาห์หน้า ขณะที่บ้านเราคาดได้รับแรงกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ หลังเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ราคาน้ำมันดิบปรับลง 2% และผลประกอบการ KBANK ต่ำคาด ให้แนวรับ 1,530-1,535 จุด และแนวต้าน 1,545-1,550 จุด

นายกิตติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ดาน์ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย หลังเปิดมาไร้ทิศทาง เนื่องจากนักลงทุนรอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คืนนี้ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ หรือสูงกว่าคาดหรือไม่

ขณะเดียวกันตลาดหุ้นบ้านเราน่าจะเผชิญแรงกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่ หลังค่าเงินบาทอ่อนค่ามาที่ระดับ 36.75 บาท/ดอลลาร์ ถือว่าอ่อนค่าสุดในรอบ 15 ปี 8 เดือน ส่งผลให้อาจมีแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงราคาน้ำมันดิบ ก็ปรับตัวลง 2% ซึ่งจะกดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน

และเช้านี้ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) รายงานผลกำไรต่ำกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้ภาพรวมไม่ค่อยดีนัก โดยนักลงทุนก็ยังจับตาผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ที่จะทยอยออกมาด้วย

ให้แนวรับไว้ที่ 1,530-1,535 จุด และแนวต้าน 1,545-1,550 จุด

 

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (20 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,874.84 จุด เพิ่มขึ้น 47.79 จุด หรือ + 0.15%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,959.90 จุด เพิ่มขึ้น 23.21 จุด เพิ่มขึ้น +0.59% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,897.65 จุด เพิ่มขึ้น 184.50 จุด หรือ +1.58%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,627.88 จุด ลดลง 52.38 จุด หรือ -0.19%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,811.60 จุด ลดลง 78.62 จุด หรือ -0.38% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,297.66 จุด ลดลง 7.06 จุด หรือ -0.21%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ก.ค.34.) ที่ระดับ 1,539.32 จุด เพิ่มขึ้น 5.89 จุด, +0.38%

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 569.67 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ก.ค.65

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. (20 ก.ค.)ลดลง 1.96 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 102.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ก.ค.) อยู่ที่ 3.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 36.77 แนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่อง จากแรงซื้อดอลลาร์ ให้กรอบ 36.60-36.85

– ผู้ว่าแบงก์ชาติย้ำ จำเป็นต้องปรับนโยบายการเงิน สู้เงินเฟ้อ แนะภาคธุรกิจธุรกิจเร่งปรับตัวรับความเสี่ยง ด้านสอท.จับตาเศรษฐกิจโลกถดถอย กำลังซื้อหดกระทบภาคการส่งออก แนะรัฐเร่งหาตลาดใหม่ทดแทน ขณะที่ยอดทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและการชำระเงินพุ่ง

– “ซิปเม็กซ์” ระงับ ถอนเงินบาท-คริปโทฯ เหตุคู่ค้า “บาเบลล์ ไฟแนนซ์-เซลเซียส” ขาดสภาพคล่อง ประกาศขายกิจการทั้งหมด คืนเงินลูกค้า ซิปอัป พลัส ควบคู่เดินหน้าฟ้อง “ซิปเม็กซ์โกลบอล” เรียกสินทรัพย์คืน “สมาคมการค้า ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย” หวั่นกระทบเชื่อมั่น “บิทคับ” ยันทรัพย์สินลูกค้าปลอดภัย

– สหรัฐฯ จัดอันดับให้ประเทศไทยขึ้น “เทียร์ 2” จากเดิม เทียร์ 2 เฝ้าระวัง หลังสถานการณ์การค้ามนุษย์ดีขึ้น พร้อมมอบรางวัล “TIP Heroes” ให้ “อภิญญา ทาจิตต์” สาวไทยที่อุทิศตนต่อสู้ปัญหาค้ามนุษย์

– สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร หรือจีดีพีเกษตร ไตรมาส 2/65 พบว่ามีแนวโน้มขยายตัวมากกว่า 4% และมากกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัว 4.4% แม้ว่าจะมีปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้ราคาปัจจัยการผลิต ราคาพลังงาน ภาวะเงินเฟ้อปรับเพิ่มขึ้น

 

*หุ้นเด่นวันนี้

– SC (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.60 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/65 โตเด่น +47% Q-Q, +10% Y-Y ตามทิศทางยอดขายทำ New High รายไตรมาส แรงหนุนหลักจากเน้นขายและโอนแนวราบระดับบนที่แข็งแกร่ง บวกกับอุปสงค์คอนโดที่ฟื้นตัว แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะเร่งขึ้นต่อ Q-Q และ Y-Y ในทุกไตรมาส จากการรุกเปิดตัวแนวราบ และเริ่มโอนคอนโดใหม่ 3 แห่งใน Q4/65 คงประมาณการกำไรปีนี้ +15% Y-Y ปัจจุบันหุ้นเทรดบน PE เพียง 5.7 เท่า พร้อมให้ปันผลสูงราว 7%

– CENTEL (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 45 บาท คาดฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ไตรมาส 2/65 มีโอกาสกำไรสุทธิกลับมาเป็นบวกหลังขาดทุนในช่วงไตรมาส 1/65 และไตรมาส 2/64 หลักๆได้ประโยชน์จากReopening รวมถึงมาตรการผ่อนคลายต่างๆ จาก Portfolio โรงแรมมีสัดส่วนห้องในไทยถึง 80% ด้านธุรกิจ Food คาดเห็นการฟื้นตัวตามการเปิดเมือง-กลับมานั่งทานอาหารในร้านได้ตามปกติเช่นกัน แบรนด์ยังแข็งแกร่ง ทั้ง KFC และ Mister Donut ตลาดคาดปี 65 มีโอกาสพลิกกลับมีกำไรสุทธิ 372 ลบ.หลังจากขาดทุนต่อเนื่องในปี 64 และ 63 ที่ -1,733 ลบ. และ -2,775 ลบ. ตามลำดับ

– WICE (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 12.50 บาท ค่าระวางเริ่มฟื้นตัวรับเปิดประเทศ มีเป้าขยายธุรกิจทั้งในสหรัฐและจีน ให้จับตาฝั่งสหรัฐ (ไม่มีปัจจัยกดดันเหมือนจีน) ปี 65 มีเป้าขนส่งทางเรือ 1 หมื่น TEUS (Q1/65 อยู่ที่ 2.64 พันTEUS) ประเมินกำไรไตรมาส 2/65 ที่ 160 ลบ. +44%YoY, +2%QoQ ขนส่งทางเรือและอากาศเด่น และเริ่มรับรู้รายได้คลังสินค้าใหม่นับตั้งแต่ไตรมาส 2/65 ขนาด 1 หมื่น ตร.ม.ที่บางนาตราด และไตรมาส 3/65 มีคลังสินค้าที่วังน้อย ตามลำดับ ประเมินกำไรสุทธิปี 65-66 ที่ 640 ลบ. และ 748 ลบ.+20%YoY และ +17%YoY ตามลำดั

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top