นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (Association of Investment Management Companies หรือ AIMC) เปิดเผยถึงแนวคิดในการสำรวจความคิดเห็นของผู้จัดการกองทุนบริษัทสมาชิกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เกี่ยวกับปัจจัยทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่มีผลกระทบต่อการทิศทางการลงทุนใน 1 ปีข้างหน้า ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลให้นักลงทุนได้ใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจการลงทุนในสภาวการณ์ที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูง ทั้งนี้ ในช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา AIMC ออกแบบสอบถามถึงปัจจัยต่างๆ ด้านเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อทิศทางการลงทุน การจัดน้ำหนักการลงทุน ประเทศและอุตสาหกรรมที่มีความน่าสนใจในการลงทุนใน 1 ปีข้างหน้าของผู้จัดการกองทุนบริษัทสมาชิก AIMC
ผลการสำรวจที่ได้คือเศรษฐกิจโลกมีลักษณะทรงตัวหรือเติบโตในอัตราลดลง โดยจะเห็นว่าปัจจัยที่ส่งผลดีต่อการลงทุนคือการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ปัจจัยที่เป็นตัวฉุดรั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนคือ อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงและการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ในมุมมองด้านการจัดน้ำหนักการลงทุนในตลาดโลก ให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Markets) มากกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) ในด้านสินทรัพย์แต่ละประเภทนั้นไม่ได้ให้น้ำหนักไปยังสินทรัพย์ใดเป็นพิเศษ แต่การลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทนั้น ในด้านตราสารหนี้ เสียงส่วนใหญ่ให้น้ำหนักไปยังตราสารหนี้ระยะสั้นของประเทศสหรัฐฯ จีนและไทย
ด้านตราสารทุน มีมุมมองในการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ (large cap) ในประเทศจีน เวียดนามและสหรัฐฯ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างโดดเด่น คือ กลุ่มสุขภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศและสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน สำหรับมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศไทยนั้น มีมุมมองเชิงบวก โดยเห็นว่าเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้น จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น มาตรการการเปิดประเทศ ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น การส่งออกมีอัตราการเติบโตที่ดีจากเงินบาทอ่อนค่าลง ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อในระดับสูงจะเป็นปัจจัยลบต่อการลงทุน
การจัดน้ำหนักการลงทุนในประเทศนั้นเน้นให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดใหญ่ ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้และสินทรัพย์ทางเลือกมีมุมมองเป็นกลางค่อนไปทางลบ กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความโดดเด่น คือ กลุ่มสุขภาพ ธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มการท่องเที่ยวและสันทนาการ ทั้งนี้ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่าสมาคมฯ จะจัดให้มีการสำรวจมุมมองทิศทางการลงทุนของผู้จัดการกองทุนบริษัทสมาชิกอย่างต่อเนื่องไตรมาสละครั้ง เนื่องจากเห็นว่าข้อมูลมุมมองการลงทุนของนักลงทุนสถาบันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ ผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไป ในการจัดสรรและวางแผนการลงทุนอย่างมีวินัยและเกิดประโยชน์สูงสุดจากการลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ก.ค. 65)
Tags: ชวินดา หาญรัตนกูล, สมาคมบริษัทจัดการลงทุน