ความเชื่อมั่นผู้บริโภคออสเตรเลียปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน เนื่องจากผู้บริโภควิตกกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น
สถาบันเวสแพค-เมลเบิร์น อินสทิทิวต์ เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของออสเตรเลียในเดือนก.ค. ปรับตัวลง 3.0% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และร่วงลง 23% เมื่อเทียบกับเป็นรายปี แตะที่ระดับ 83.8 โดยดัชนีที่ต่ำกว่า 100 บ่งชี้ว่าจำนวนผู้บริโภคที่มีมุมมองในด้านลบต่อเศรษฐกิจนั้น มีมากกว่าจำนวนผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นบวก
นายบิล อีแวนส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเวสต์แพคตั้งข้อสังเกตว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรุดตัวลงเกือบ 20% นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2564 ซึ่งการชะลอตัวลงในลักษณะเช่นนี้มักจะเกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
การร่วงลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสะท้อนถึงความวิตกกังวลเกี่ยวภับภาวะอัตราดอกเบี้ยสูง หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.5% สู่ระดับ 1.35% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะเดียวกัน RBA ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นได้เพิ่มแรงกดดันต่อภาคครัวเรือนของออสเตรเลียซึ่งได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากภาวะราคาน้ำมันแพงและราคาอาหารที่สูงขึ้น โดยผลสำรวจของเวสต์แพคบ่งชี้ว่า มาตรวัดสถานะการเงินของภาคครัวเรือนออสเตรเลียปรับตัวลง 2.8% ในเดือนก.ค. และมาตรวัดมุมมองของภาคครัวเรือนที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในอีก 12 เดือนข้างหน้าลดลง 4.2% และแนวโน้มในอีก 5 ปีข้างหน้าลดลง 6.7%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 65)
Tags: ความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, บิล อีแวนส์, ออสเตรเลีย