นักวิเคราะห์คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ทิศทางปรับลง รับแรงกดดันตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนพุ่งสูงขึ้นกังวลล็อกดาวน์อีกรอบ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามาก ตัวเลขการจ้างงานออกมาแข็งแกร่งคาดหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% พร้อมให้แนวรับที่ 1,550 จุด และ 1,540 จุด แนวต้าน 1,560 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซต์เวย์ในทิศทางปรับตัวลดลง โดยได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศจีน กังวลกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วน
ขณะที่ดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลสูงขึ้น 0.95% แตะที่ 108.0220 สูงสุดในรอบ 20 ปี โดยหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 372,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย.65 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 250,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นเบี้ยที่ 0.75%
พร้อมให้แนวรับที่ 1,550 จุด และ 1,540 จุด แนวต้าน 1,560 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (11 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,173.84 จุด ลดลง 164.31 จุด หรือ -0.52%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,854.43 จุด ลดลง 44.95 จุด หรือ -1.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,372.60 จุด ร่วงลง 262.71 จุด หรือ -2.26%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,701.00 จุด ลดลง 111.3 จุด หรือ -0.42% ,ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,905.07 จุด ลดลง 219.13 จุด หรือ -1.04% และ ดัชนี SSE Compositeตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,307.22 จุด ลดลง 6.36 จุด หรือ -0.19%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ก.ค.) ที่ระดับ 1,557.40 จุด ลดลง 0.47 จุด, -0.03%
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,850.44 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ก.ค.65
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. (11 ก.ค.)ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 104.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ก.ค.) อยู่ที่ 11.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 36.30/34 อ่อนค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค ตลาดกังวลภาวะศก.-พลังงานในยุโรป
– “มหาดไทย” เปิดทาง ต่างชาติซื้อบ้าน 1 ไร่ หากนำเงินลงทุนในไทย 40 ล้านบาทติดต่อกัน 3 ปี จ่อขยายเพดานลดค่าโอน-จำนอง 0.01% เล็งขยายฐานซื้อบ้าน เกิน 3 ล้านบาท หวังเร่งเศรษฐกิจฟื้นตัว “คลัง” หวังอสังหาฯ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจปีนี้ เล็งถก “ธปท.-มหาดไทย” ต่ออายุแอลทีวี ธอส.ยืนยันขึ้นดอกเบี้ยช้าที่สุดท่ามกลางทิศทาง ขาขึ้น “แบม” ชี้ยอดขาย “เอ็นพีเอ” เพิ่มขึ้น
– ธปท.เตรียมแก้หลักเกณฑ์เงื่อนไขดูแลเงินบาท เหตุเกณฑ์ล้าสมัยใช้ตั้งแต่ปี 40 พร้อมเอื้อผู้ให้บริการทางการเงินให้บริการ “เฮดจิ้ง” กว้างขึ้น บนต้นทุนต่ำลง
– คลังเล็งชง ครม.ต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 5 บาท อีก 2 เดือน คาดเสียรายได้ 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ กกพ.เปิดฟังความเห็น 3 แนวทางขึ้นค่าไฟงวดใหม่เป็นครั้งแรก ชี้อาจขึ้นตั้งแต่ 93.43 สต.-1.39 บาท ส่วน กบน.ตรึงราคาดีเซล 34.95 บาทต่อลิตรอีกสัปดาห์
*หุ้นเด่นวันนี้
– CKP (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.60 บาท คาดกำไรอยู่ในช่วงฟื้นตัวในไตรมาส 2/65 และลุ้นทำ New High ในไตรมาส 3/65 ตามปริมาณน้ำในเขื่อนที่เพิ่มขึ้นหลังเข้าฤดูฝนซึ่งเป็น High Season ,Consensus คาดกำไรปี 2565-2566 เติบโตเฉลี่ย +5% CAGR แม้จะไม่ร้อนแรง แต่คาดยังทำ New High ได้ต่อเนื่อง และกลุ่มโรงไฟฟ้าคาดยังมีแนวโน้ม Outperform ตลาดที่ผันผวนในระยะนี้
– GPSC (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า IAA Consensus 72 บาท แรงกดดันต่อต้นทุนพลังงานเริ่มลดลงหลังจากแนวโน้มของราคาน้ำมันดิบเริ่มชะลอตัวเป็น Sentiment บวกกับโรงไฟฟ้าประกอบกับมีประเด็นเรื่องการปรับขึ้นค่า Ft ให้เก็งกำไรเป็นบวกกับผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนของโรงไฟฟ้า SPP และมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นภาคอุตสาหกรรมสูง
– ZEN (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 12.80 บาท แม้จะมีปัจจัยลบมาจากภาวะต้นทุนวัตถดิบสูงขึ้น รวมไปถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ถูกกดดัน แต่ภาพรวมปีนี้ยังคาดหวังการฟื้นตัวที่โดดเด่นตั้งแต่ไตรมาส 2/65 จากปัจจัยหนุนรับรู้รายได้การลงทุนโรงงานผลิตซอส ZKC’s การกลับมานั่งทานอาหารในร้านมากขึ้น และ การขยายร้าน Franchise ที่มี Entry การเปิดไม่สูงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตัวแบรนด์ยังแข็งแกร่ง ทั้ง ร้านเขียง, On the Table, ตำมั่ว, AKA, ZEN คาดหลังขาดทุนในปี 64 ที่ -91.6 ลบ. จะกลับมาพลิกมีกำไรในปี 65 และ ปี66 ที่ 102.0 ลบ. และ 166.7 ลบ.(+63.4%YoY) ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 65)
Tags: ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย