สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สภาสหพันธ์ (Bundestag) ของเยอรมนีมีกำหนดการออกกฎหมาย 2 ฉบับในวันนี้ เพื่อจัดการกับปัญหาฉุกเฉินด้านพลังงาน อันเนื่องมาจากซัพพลายพลังงานจากรัสเซียที่ลดลง ท่ามกลางความตึงเครียดของสงครามในยูเครน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นขณะที่รัฐสภามีกำหนดจะเข้าสู่ช่วงปิดสมัยประชุมสภาในฤดูร้อนจนถึงปลายเดือนส.ค.นี้ โดยรัฐบาลของนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้ร่างกฎหมายฉบับแรกที่อนุญาตให้รัฐบาลเข้าแทรกแซงได้ เมื่อบริษัทพลังงานประสบปัญหา
ตัวอย่างบริษัทพลังงานที่ประสบปัญหาซึ่งต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วนที่สุดคือ บริษัทยูนิเปอร์ (Uniper) ซึ่งรัฐอาจเข้าถือหุ้นจำนวนมากเพื่อป้องกันการล้มละลายและเพื่อให้ตลาดดำเนินต่อไปได้
นอกจากนี้ กฎหมายดังกล่าวยังช่วยให้เกิดทางเลือกต่าง ๆ ในการนำเสนอกลไกการแบ่งเบาภาระราคาค่าก๊าซในหมู่ผู้บริโภคทั้งหมด แทนที่จะยอมให้ราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้นนี้ส่งผลกระทบแค่บางภาคธุรกิจและแค่บางส่วนของห่วงโซ่คุณค่า
อีกส่วนหนึ่งของกฎหมายฉบับนี้คือ ทางเลือกที่จะอนุญาตให้มีการเปิดใช้งานโรงไฟฟ้าถ่านหินได้มากขึ้น โดยโรงไฟฟ้าหลายแห่งที่ถูกสั่งให้ปิดตามกฎหมายว่าด้วยสภาพอากาศนั้นอาจกลับมาเปิดดำเนินการแทนได้ หากประเทศขาดแคลนก๊าซในฤดูหนาวและจำเป็นต้องนำโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญหรือในลูกค้ารายย่อยที่ใช้เครื่องทำความร้อน
อนึ่ง กฎหมายฉบับนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากสภาสูงในวันศุกร์นี้ (8 ก.ค.) จึงจะมีผลบังคับใช้
ส่วนกฎหมายอีกฉบับนั้นร่างขึ้นเพื่อเร่งการขยายตัวของพลังงานหมุนเวียน เนื่องจากเยอรมนีต้องการบรรลุเป้าหมายที่จะใช้พลังงานหมุนเวียนถึง 80% ของพลังงานทั้งหมดภายในปี 2573 เพื่อลดภาวะโลกร้อน โดยกฎหมายฉบับที่สองนี้เป็นไปตามกำหนดการอื่น โดยไม่เกี่ยวข้องกับความจำเป็นในการผ่านมาตรการป้องกันการขาดแคลนพลังงานที่เกิดจากวิกฤตการณ์ด้านซัพพลายพลังงานอย่างเช่นกฎหมายฉบับแรก
อย่างไรก็ดี กฎหมายฉบับที่สองนี้เกี่ยวข้องกับวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนในแง่การแก้ปัญหาโดยเดิมพันกับพลังงานสีเขียวมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เยอรมนีเป็นอิสระจากเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซียได้เร็วขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 65)
Tags: พลังงาน, รัสเซีย, วิกฤตยูเครน, เยอรมนี