สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้าในเดือนพ.ค. 2565 หนักที่สุดในรอบกว่า 8 ปี เนื่องจากสินค้าโภคภัณฑ์ราคาสูงขึ้นและสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลงส่งผลให้สินค้านำเข้าแพงขึ้น ซึ่งทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไม่สดใส
กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ว่า มูลค่าการนำเข้าพุ่งขึ้น 48.9% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนพ.ค. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยในโพลของรอยเตอรื้ที่คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 43.6%
ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าดังกล่าวสูงกว่ามูลค่าการส่งออกในเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 15.8% เมื่อเทียบรายปี ส่งผลให้มียอดขาดดุลการค้า 2.385 ล้านล้านเยน (1.78 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นการขาดดุลมากที่สุดในเดือนเดียวนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2557
การขาดดุลในเดือนพ.ค.นับเป็นการขาดดุลเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันเมื่อเทียบรายปี และขาดดุลมากกว่าที่โพลของรอยเตอร์คาดไว้ที่ 2.023 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงอุปสรรคที่ญี่ปุ่นเผชิญอยู่จากการอ่อนค่าของเงินเยน และต้นทุนด้านเชื้อเพลิงและวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่กลุ่มผู้ผลิตภายในประเทศต้องพึ่งพา
เมื่อจำแนกตามภูมิภาค การส่งออกของญี่ปุ่นไปยังจีนซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดนั้น หดตัวลง 0.2% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากมีการส่งออกเครื่องจักรและอุปกรณ์การขนส่งไปยังจีนลดน้อยลง
ขณะเดียวกัน การส่งออกไปยังสหรัฐกลับเพิ่มขึ้น 13.6% ในเดือนพ.ค. เนื่องจากการส่งออกเครื่องจักรและแร่เชื้อเพลิงมีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 มิ.ย. 65)
Tags: ขาดดุลการค้า, ค่าเงินเยน, ญี่ปุ่น, เศรษฐกิจญี่ปุ่น