สำนักงานศุลกากรเกาหลีใต้ (KCS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้ลดลง 12.7% ในช่วง 10 วันแรกของเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยสาเหตุหลักมาจากวันทำงานที่น้อยลง
รายงานของ KCS ระบุว่า ยอดส่งออกของเกาหลีใต้อยู่ที่ระดับ 1.507 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 – 10 มิ.ย. เมื่อเทียบกับระดับ 1.73 หมื่นล้านดอลลาร์ของช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ยอดส่งออกที่ลดลงเป็นเพราะวันทำงานในเดือนมิ.ย.ปีนี้มีจำนวนน้อยกว่าเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว เนื่องจากในปีนี้มีวันหยุดราชการหลายวันรวมถึงวันเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 1 มิ.ย. และวันแห่งความทรงจำ (Memorial Day) ในวันที่ 6 มิ.ย.
ขณะที่ยอดนำเข้าในช่วง 10 วันแรกของเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 17.5% แตะที่ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบรายปี ทำให้เกาหลีใต้มียอดขาดดุลการค้าที่ 5.99 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาดังกล่าว
สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า หากแนวโน้มดังกล่าวยังดำเนินต่อไป เกาหลีใต้จะขาดดุลการค้าเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย.เนื่องจากต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอันเนื่องจากรัสเซียรุกรานยูเครน
กระทรวงการค้าของเกาหลีใต้ระบุว่า การส่งออกซึ่งคิดเป็นครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจเกาหลีใต้นั้น ขยายตัว 21.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 19
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าของเกาหลีใต้พุ่งสูงขึ้น ทำให้มียอดขาดดุลการค้า 1.71 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.
เกาหลีใต้เป็นประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าพลังงานเพื่อรองรับความต้องการที่สูงมากในประเทศ โดยการนำเข้าน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 88.1% และการนำเข้าถ่านหินทะยานขึ้น 223.9% ในระหว่างวันที่ 1-10 มิ.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มิ.ย. 65)
Tags: เกาหลีใต้, เศรษฐกิจเกาหลีใต้