รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียประกาศในวันนี้ (20 พ.ค.) ว่า พบผู้ที่อาจติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิง (monkeypox) รายแรกของประเทศ หลังมีการแพร่ระบาดไปทั่วยุโรป
รายงานระบุว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นชาววัยประมาณ 40 ปีจากรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่เพิ่งเดินทางกลับจากยุโรป
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เชื้อไวรัสดังกล่าวนั้นปกติจะแพร่ระบาดในทวีปแอฟริกา แต่ได้มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลกในเดือนพ.ค. 2565 ในกลุ่มประเทศที่ไม่เคยมีประวัติพบเชื้อไวรัสฝีดาษลิงเป็นโรคประจำถิ่นมาก่อน โดยเฉพาะในอังกฤษ
นางเคอร์รี ชานท์ ผู้อำนวยการด้านสุขภาพของรัฐนิวเซาท์เวลส์เปิดเผยว่า โรคฝีดาษลิงแพร่ระบาดระหว่างคนได้ยาก
นางชานท์กล่าวว่า “คนสามารถติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงได้ผ่านการสัมผัสใกล้ชิดมากกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยผู้ติดเชื้อมักจะมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย และส่วนใหญ่จะหายดีภายในไม่กี่สัปดาห์”
แพทย์และศูนย์สุขภาพทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้แจ้งเตือนให้เพิ่มความระวังโอกาสที่จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในรัฐ
ด้านเจ้าหน้าที่ในรัฐวิกตอเรียได้แจ้งเตือนให้ประชาชนระวังเกี่ยวกับโรคดังกล่าวในผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ
ศาสตราจารย์ไรนา แมคอินไทร์ ผู้อำนวยการโครงการความปลอดภัยด้านชีวภาพของสถาบันเคอร์บีแห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ (UNSW) ระบุว่า ไวรัสฝีดาษลิงมีความเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคฝีดาษ
ศาสตราจารย์แมคอินไทร์กล่าวว่า “มันเป็นไวรัสทางเดินหายใจ แต่ปกติแล้วจะไม่สามารถแพร่ระบาดระหว่างมนุษย์ได้อย่างง่ายดายนัก และมักจะเกิดกับเฉพาะผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อเท่านั้น สำหรับอัตราการติดเชื้อจากการสัมผัสติดต่อในการศึกษาครั้งก่อน ๆ นั้นอยู่ที่ประมาณ 3%”
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์แมคอินไทร์ยังระบุด้วยว่า วัคซีนโรคฝีดาษที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสฝีดาษลิง และแนะนำให้ออสเตรเลียเริ่มสำรองวัคซีนไว้ในกรณีที่ไวรัสยังคงระบาดต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 65)
Tags: monkeypox, ฝีดาษลิง, รัฐนิวเซาท์เวลส์, ออสเตรเลีย