พรรคร่วมฝ่ายค้านเดินสายภาคอีสานโหมโรงตั้งเวทีอภิปรายซักฟอกรัฐบาลนอกสภา

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเปิดโครงการผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน:ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน เวทีที่ 4 “รัฐสภาสั่นคลอน สภาล้มลุกคลุกคลาน” ที่จังหวัดนครราชสีมาว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ประชาชนต้องหยุดงาน ตกงาน ขาดรายได้ โดยเฉพาะประชาชนในภาคอีสานที่ต้องเดินทางกลับถิ่นฐาน และความผิดพลาดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เพียงแต่ทำให้แรงงานต้องล้มเหลวในการหารายได้ แต่การสร้างงานสร้างเงินจากภาคเกษตรกรรมก็ล้มเหลวไปด้วย

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นภาพสะท้อนความสั่นคลอนของรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ รัฐธรรมนูญที่ถูกสร้างโดยผู้มีอำนาจที่ต้องการสืบทอดอำนาจ ผูกมัดประชาชนไว้กับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ส่งผลให้รัฐบาลไม่สนใจประชาชน สิ่งที่หาเสียงเอาไว้ไม่ถูกนำไปผลักดันเป็นนโยบายในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ส.ส.ปัดเศษที่เอามาตั้งรัฐบาลทำให้เกิดรัฐบาลที่ไม่มั่นคง ไร้เสถียรภาพ และไร้ประสิทธิภาพ อีกทั้งยังไม่เคยมีความรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรีไม่เคยมาตอบกระทู้ที่สภา ไม่เคยให้ความสำคัญกับสภา ปล่อยสภาล่มซ้ำซากมากกว่า 17 ครั้ง อีกทั้งยังทำลายเกียรติประชาชนที่มอบอำนาจให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วยการใช้สภาเป็นเวทีแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เพื่อความอยู่รอดของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้จำนนด้วยหลักฐานทุกอย่าง ที่ผ่านมาพรรคฝ่ายค้านเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้ว 3 ครั้ง ทั้งประเด็นการทุจริตถุงมือยาง การสร้างความเสียหายให้ประเทศอย่างกรณีเหมืองทองอัครา รัฐบาลชุดนี้ไม่สามารถตอบคำถามหรือแก้ไขในสิ่งที่เหล่านี้ได้แต่รัฐบาลนี้ก็พยายามที่จะยื้อยู่ในอำนาจต่อ วันนี้รัฐธรรมนูญกำหนดให้นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องช่วยกันประเมินในสิ่งเหล่านี้เนื่องจากก็มีข่าวหลุดออกมาว่า เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้และเขาสามารถอยู่ในอำนาจต่อไปได้

“พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะตัดสินใจยุบสภา ก่อนที่จะมีกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งออกมาบังคับใช้ เพื่อให้เกิดเดดล็อกทางการเมือง แล้วจะสามารถอยู่รักษาการในอำนาจต่อไปได้ต่อเนื่อง หรืออีกหนทางคือ พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ ซึ่งเราก็เป็นห่วงว่าอาจมีการใช้กลไกของรัฐธรรมนูญที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือ การทำให้กระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาไม่สามารถทำได้ คือ เลือกนายกรัฐมนตรีกี่ครั้งก็ไม่ผ่าน แล้วไปทำให้เขาสามารถอยู่ในอำนาจได้ต่อไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่ก็ต้องถามพี่น้องประชาชนว่าจะยอมให้เขาทำแบบนั้นหรือไม่” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลเสื่อมสภาพเกินเยียวยา สภาเสื่อมศรัทธา จึงถึงเวลาทวงคืนอำนาจให้ประชาชน พรรคร่วมฝ่ายค้านได้มีมติร่วมกันให้ขีดเส้นใต้ให้กับความล้มเหลว ขีดเส้นตายให้กับรัฐบาลที่สิ้นสภาพ วันนี้พรรคฝ่ายค้านจึงมาฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อนำสิ่งที่ทุกคนสะท้อนไปบอกกับรัฐบาลชุดนี้ว่าไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศ หยุดทำร้ายประเทศและทำร้ายประชาชนได้แล้ว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะร่างรัฐธรรมนูญมี ส.ว.จำนวน 250 เสียง จึงไม่สนใจความรู้สึกประชาชน ที่ผ่านมาตนเคยอภิปรายฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ ครั้งแรกอยู่บ้านหลวงไม่ได้ ครั้งที่ 2 ถุงมือยาง ครั้งที่ 3 ทุจริตจัดซื้อวัคซีนโควิด-19

นายประเสริฐ กล่าวว่า รัฐบาลเรือแป๊ะจะเจอระเบิดเวลาลูกแรก 1.การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2566 หากงบฯ ไม่ผ่านสภาฯ ต้องรับผิดชอบด้วยการยุบสภา 2.ร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ คือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เมื่อผ่านจะมีแรงกดดันให้ยุบสภาฯ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ วันนี้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่เบอร์คนและเบอร์พรรคคนจะหมายเลข แต่วันนี้เป็นคนละเบอร์ 3.ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 อภิปรายครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย วันนี้เรามีข้อมูลพร้อม ถ้ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับเสียงไม่ไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่งของ ส.ส.ที่มีอยู่ ไม่ต้องไล่ออก ไม่ต้องยุบสภาฯ ออกโดยกฎหมายให้ออก ถ้าได้รับเสียงไม่ไว้วางใจ

และ 4.รัฐธรรมนูญกำหนดให้นายกฯ อยู่เกิน 8 ปีไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ครบ 8 ปีในวันที่ 24 ส.ค.นี้ อันเก่าเป็นนายกฯ มาแต่ปี 57 ตอนยึดอำนาจเขาให้นับรวมด้วย อันนี้เป็นปมที่เรือแป๊ะจะไปยาก ตามระเบิดเวลา 4 ลูก แถมเรือแป๊ะยังมีรอยรั่ว 4 รู เพราะพรรคเศรษฐกิจไทยยังไม่รู้จะอยู่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล แม้แต่พรรคเล็กพรรคน้อย พรรคเศรษฐกิจไทยมี 18 เสียงพรรคเล็ก 12 เสียงเป็นสวิงโหวต ถ้าโหวตให้ทิศทางได้เชื่อว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ไปไม่รอด

“สภาล้มลุกคลุกคลาน วันนี้แม้มีเสียงข้างมาก แต่มีเสียงมันปริ่มน้ำ ฝ่ายค้าน 208 เสียง ฝ่ายรัฐบาลไม่เกิน 240 เสียง สวิงโหวตตรงกลาง ที่ผมพูดคือมีพรรคเล็กและพรรคเศรษฐกิจไทย สองกลุ่มนี้รวมกัน 30 กว่าเสียงรวมฝ่ายไหนเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้เรือแป๊ะไปไม่รอด” นายประเสริฐ กล่าว

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ล่าสุดรัฐบาลจะจัดซื้อเครื่องบินรบเอฟ-35 ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ได้กู้เงินแล้ว 1.8 ล้านล้านบาท มีการดำเนินคดีกับผู้เห็นต่างจำนวนมาก มีการใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 มาตรา 116 มีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีประชาชนถูกดำเนินคดีไปแล้วมากกว่า 3,000 คน ปี 63 ถูกดำเนินคดี 1,800 คน นี่คือตัวเลขของคนเห็นต่างทางการเมืองที่อยากเห็นบ้านเมืองที่ดี ถ้าเราปล่อยให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ให้ พล.อ.ประวิตร รับไม้ต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์ จะมีข้าราชการน้ำดีกี่คนที่ลี้ภัย จะมีลูกหลานกี่คนที่ถูกดำเนินคดี พรรคก้าวไกล และฝ่ายค้าน เห็นว่าพอกันทีกับระบอบนี้ ไม่ต้องส่งไม้ต่อ เราไม่เอาทั้งนั้น

กรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ทำเรื่องค้ามนุษย์ตอนนี้ลี้ภัย จับปลาตัวใหญ่ไม่ได้ ถ้าปล่อยให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นายกรัฐมนตรีต่อ ให้ พล.อ.ประวิตร รับไม้ต่อ ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร จะมีลูกหลานกี่คนถูกดำเนินคดี ตำรวจน้ำดีถูกลี้ภัยกี่คน

“พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร เราไม่เอาทั้งนั้น สิ่งที่ฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกลต้องการทำ คือ เราต้องการปักธงทางความคิดเปลี่ยนความคิดให้มีคนไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์มากที่สุด ไม่ว่าจะผ่านอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือ 8 ปีนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ เราจะทำทุกวิถีทางให้ระบอบนี้สิ้นซากไป เพื่อให้ประเทศนี้ก้าวหน้า ก้าวไกล” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ เพราะสูตรคำนวณพิสดารของ กกต. อีกทั้งพรรคเล็กทำให้เป็นรัฐบาลได้ ทำให้มีข่าวว่าจะพูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย เพื่อล้มนายกฯ

นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ตนยืนยันรัฐบาลกำลังสั่นคลอน เพราะเนติบริกรบอกว่ารัฐบาลมีความเสี่ยง เมื่อมีความเสี่ยงก็จะตั้งรัฐบาลรักษาการให้ พล.อ.ประวิตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าตนจะทำอะไรต้องถามหัวหน้าพรรคก่อน ส่วนวิกฤตศรัทธาของ พล.อ.ประยุทธ์ ตนจะไม่พูดแต่จะเน้นว่าอารมณ์ร้อนมากกับสื่อมวลชน และอีกประเด็นที่ต้องจับตาคือ ความสั่นคลอนจะเกิดขึ้น โดยกล้วยที่ปลูกไว้กำลังเข้าที่เริ่มมีการจำหน่ายจ่ายแจก เขาซื้อมาตลอด ให้คนกินกล้วยมาตลอด

นายสุพจน์ ระบุว่า อีกประการที่สั่นคลอนคือรัฐบาลมีมุ้งเยอะมาก ทำให้มีอะไรพิสดารเรื่อยๆ ส่วนสภาฯ ล้มลุกคลุกคลานนั้น เมื่อเป็นรัฐบาลผสมก็มีหลายมุ้ง คุมไม่ได้ เสียงปริ่มน้ำ ยิ่งตอนนี้ถ้าเกิด ร.อ.ธรรมนัส เอาคนไป 20 กว่าคน นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้ากลุ่ม 16 นำไปอีก 10 กว่าคนก็เป็นอำนาจต่อรองได้อีก ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเกิดความไม่ไว้วางใจกัน

นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า รัฐบาลไม่สั่นคลอน ไม่เห็นสั่นคลอน ไม่ได้ต่อว่าฝ่ายค้านแต่พูดเพื่อให้ฝ่ายค้านฮึกเหิม ถ้าสั่นคลอนจริงไปนานแล้วและจะอยู่จนครบเทอม ถ้ารัฐบาลอยากจะอยู่ครบเทอม ที่ตนพูดไม่เหมือนคนอื่น เหมือนเราจะไม่หลอกตัวเอง ตราบใดที่รัฐบาลยังมีกล้วยแจก เลี้ยงงูเห่า รัฐบาลไม่สั่นคลอนแน่นอน และพรรคเล็กจะถูกเรียกไปแจกงบประมาณ ดังนั้นไม่มีทางที่พรรคเล็กนอกใจรัฐบาล ถ้าเลือกพรรคเพื่อชาติให้แลนด์สไลด์ ตนจะไปต่อสู้กับเผด็จการ ตนจะล้ม พล.อ.ประยุทธ์ และเผด็จการให้ได้ ตนจะกดดันให้รัฐบาลทำเพื่อช่วยประชาชน ถ้าพรรคเพื่อชาติมาเป็นรัฐบาล

“ใครจะล้มประยุทธ์ และชู พล.อ.ประวิตร เขาฝากศรัณย์วุฒิ มาบอกว่าถ้าล้มตู่ ชูป้อม กูไม่เอาโว้ย” นายศรัณย์วุฒิ กล่าว

นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลสั่นคลอน จะเอาเวลาไหนมาช่วยเหลือประชาชนแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างไร ในเมื่อรัฐบาลไม่มั่นคง สรุปว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ควรแก้ไข จะทำให้รัฐบาลมีหลายพรรคการเมือง ไม่มีเอกภาพไม่สามารถบริหารบ้านเมืองทางที่ดีได้ ตนเห็นควรแก้ไขมาตรา 272 ยกเลิก ส.ว. 250 คนที่มาจากการแต่งตั้ง ให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง รัฐบาลชุดนี้คงไปไม่รอด คงไม่เกินเดือน มิ.ย.จะไปไม่รอด เพราะได้ข่าวมีการกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก แต่มีการต่อรองในเรื่องตำแหน่งอยู่ ตนเชื่อไม่นานจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยฝ่ายค้านก็พร้อมเป็นรัฐบาล

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ค. 65)

Tags: , ,
Back to Top