SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,690.59 จุด เพิ่มขึ้น 0.04 จุด (+0.00%) มูลค่าการซื้อขายราว 71,018.65 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ ก่อนพลิกกลับมาเป็นบวกได้เล็กน้อย โดยมีปัจจัยกดดันจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค. แต่ก็มีปัจจัยหนุนจาก ศบค.ชุดใหญ่ ยกเลิกมาตรการเข้าประเทศในรูปแบบ Test&Go โดยปรับให้ใช้เพียงการตรวจ ATK มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคปรับตัวลงราว 0.3-1% ส่วนแนวโน้มในสัปดาห์หน้าคาดว่าตลาดฯ น่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบจำกัด เพื่อรอดูการประชุมเฟดเดือนพ.ค. ให้แนวต้านที่ 1,690-1,700 จุด และแนวรับ 1,668 จุด
- ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,690.59 จุด เพิ่มขึ้น 0.04 จุด (+0.00%) มูลค่าการซื้อขายราว 71,018.65 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบทั้งวันและท้ายตลาดพลิกมาบวกเล็กน้อย โดยดัชนีขึ้นไปทำระดับสูงสุด 1,690.59 จุด และลงไปต่ำสุดที่ 1,680.86 จุด
- ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 583 หลักทรัพย์ ลดลง 1,053 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 566 หลักทรัพย์
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ ก่อนพลิกกลับมาเป็นบวกเล็กน้อยในช่วงท้ายตลาด โดยได้รับแรงกดดัน หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนพ.ค. แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นบ้านเรามีปัจจัยบวกจากในประเทศ หลังศูนย์บริหารศถานการณ์โควิด-19 (ศบค.ชุดใหญ่) มีมติยกเลิกมาตรการเข้าประเทศในรูปแบบ Test & Go ที่ต้องตรวจ RT-PCR โดยปรับให้ใช้เพียงการตรวจ ATK เท่านั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเปิดรองรับการท่องเที่ยว ทำให้หนุนต่อหุ้นกลุ่มโรงแรม โรงพยาบาล และ ICT
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ปรับตัวลงราว 0.3-1%
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า คาดว่า ตลาดฯ น่าจะแกว่งไซด์เวย์อยู่ในกรอบจำกัด เพื่อรอดูการประชุมเฟดในต้นเดือนพ.ค. โดยนักลงทุนน่าจะเก็งกำไรในหุ้นรายตัว ให้กรอบแนวต้าน 1,690-1,700 จุด และ แนวรับ 1,668 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
EA มูลค่าการซื้อขาย 5,704.36 ล้านบาท ปิดที่ 91.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 3,484.23 ล้านบาท ปิดที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,801.38 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,713.68 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,674.04 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 65)
Tags: ข่าวหุ้น, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ตลาดหุ้น