รับการผ่อนคลายมาตรการระยะต่อไป
พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม สมช.มีมติสมควรให้ต่ออายุการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ออกไปอีก 1 เดือน
จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน พ.ค.63 เนื่องจากมองว่า ช่วง 1 เดือนจากนี้ไป จะมีการผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 3 และ 4 จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ใช้ในการกำกับมาตรการให้เป็นไปอย่างมีเอกภาพ โดยเตรียมเสนอเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) และหากได้รับความเห็นชอบ จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า
ที่ประชุมในวันนี้ มีตัวแทนของทุกภาคส่วนเข้าร่วมการประชุมทั้งในส่วนของฝ่ายความมั่นคง ด้านสาธารณสุข ภาคประชาคม ข่าวกรอง ภาคธุรกิจและตัวแทนภาคเอกชน โดยได้พิจารณายึดหลักความปลอดภัย และปัจจัยด้านสาธารณสุขเป็นสำคัญ และเห็นว่าการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเอกภาพ
ที่ผ่านมา ศบค.ได้ใช้กฏหมาย 2 ตัวในการควบคุมสถานการณ์ คือ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 กับพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ควบคู่กันไป ทำให้เกิดการบริหารจัดการในภาพรวมทั้งประเทศเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทำให้แต่ละจังหวัดมีมาตรฐานการควบคุมโรคใกล้เคียงกัน
“ทำไมต้อง ต่ออีก 1 เดือน ก็เพราะว่า 1 เดือนต่อจากนี้จะเป็นการผ่อนคลายระยะที่ 3 ระยะที่ 4 ซึ่งจะมีความเสี่ยงมากขึ้นเป็นลำดับจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่มากำกับการผ่อนคลายให้เป็นเอกภาพและเป็นไปด้วยความระมัดระวัง เราไม่ต้องการ second wave กลับมา มีหลายประเทศที่ปลดล็อกได้อย่างรวดเร็วนำมาสู่การแพร่ระบาดในระลอกที่ 2 เราไม่ต้องการให้ไทยเป็นเช่นนั้น เพราะฉะนั้นการผ่อนคลายระยะที่ 3 ระยะที่ 4 ต้องทำด้วยความระมัดระวังและกลไกที่จะทำให้ความระมัดระวังนั้นเกิดขึ้น นั่นก็คือพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯที่เราจะต่ออีก 1 เดือน” พล.อ.สมศักดิ์ กล่าว
สำหรับผลการประชุมในวันนี้ จะนำเข้าสู่ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่วันพรุ่งนี้ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน หากที่ประชุมเห็นชอบ จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในสัปดาห์หน้า
เลขาธิการสมช. ยังยืนยันว่าการเสนอให้ต่ออายุการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน ไม่ได้หวังผลหรือมีนัยทางการเมืองใด ๆ เป็นเหตุผลใช้ควบคุมด้านสาธารณสุขเป็นหลัก
ส่วนมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 และมาตรการจำกัดการออกนอกเคหะสถาน (เคอร์ฟิว) จะมีการพิจารณาอีกครั้งในการประชุมสมช. ในสัปดาห์หน้าวันที่ 27 พ.ค.นี้ ซึ่งทราบดีว่า การประกาศเคอร์ฟิวอาจกระทบกระเทือนความเป็นอยู่บ้าง ก็จะรับไปพิจารณาในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งจะต้องหารือร่วมกันกับทุกภาคส่วน และขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของศบค.ด้วย
เลขาธิการสมช. กล่าวว่า ในส่วนของการเปิดภาคเรียน ยังคงเป็นวันที่ 1 ก.ค. 63 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด แต่จะเปิดก่อนหน้านั้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับความพร้อมของกระทรวง ซึ่งต้องพิจารณาจากมาตรการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับคำสั่งของรัฐบาลด้วย
พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่าง มาจาก 14 วันที่แล้ว หากทำได้ดีก็เป็นผลมาถึงวันนี้ และผลวันนี้ ก็จะมีผลต่อการดำเนินการในอีก 14 วันข้างหน้าต่อไปเช่นกัน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ค. 63)
Tags: พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, สมช., สมศักดิ์ รุ่งสิตา, เคอร์ฟิว