เงินบาทเปิด 31.88 ต่อดอลล์ นลท.รอลุ้นผลประชุมกนง.บ่ายนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.88 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.90 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. โดยเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มค่าเงินในภูมิภาค วันนี้นักลงทุนรอดูผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งคาดว่าจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% มาอยู่ที่ 0.50% อย่างไรก็ดี ช่วงบ่ายเงินบาทอาจผันผวน หากมติ กนง.ไม่เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

“บาทแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน หลังมีแรงเทขาย(ดอลลาร์)ทางเทคนิคเพื่อตัดขาดทุน”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 31.85-32.00 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (19 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.47884% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.64821%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.86 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 107.55 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0934 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0952 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.9200 บาท/ดอลลาร์
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ครั้งที่ 3/2563 ซึ่งตลาดต่างคาดการณ์ว่าจะตัดสินใจลดดอกเบี้ยลง 0.25%
  • “นักลงทุนสถาบัน” แห่ซื้อ “บอนด์ไทย” เผย 7 วันซื้อสุทธิกว่า 2 แสนล้าน กดบอนด์ยิลด์ลดวูบ รุ่น 2 ปี เหลือ 0.62% ต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบาย คาดเก็งข่าว กนง. หั่นดอกเบี้ยวันนี้อีก 0.25% ด้าน “นักเศรษฐศาสตร์” ฟันธงดอกเบี้ยไทยยัง “ขาลง” เหตุแนวโน้มเศรษฐกิจโตต่ำคาด แม้ไตรมาสแรกดีกว่าที่ประเมินไว้
  • รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เสนอให้รัฐบาลออกมาตรการรถเก่าแลกรถใหม่ เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมรถยนต์ ว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะอาจกระทบมาตรการส่งเสริมการใช้และผลิตยานยนต์ไฟฟ้า หรือรถอีวี ที่ไทยกำลังขับเคลื่อนในขณะนี้ได้
  • ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า จากการรวบรวมผลกำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 1/2563 จำนวน 113 บริษัท พบว่ามีกำไรสุทธิรวม 7.87 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะอยู่ที่ 1.11 แสนล้านบาท ในจำนวนนี้มี 45 บริษัทผลประกอบการดีกว่าคาด, 41 บริษัทแย่กว่าคาด และ 27 บริษัทผลประกอบการตามคาด ทำให้นักวิเคราะห์ในตลาดเริ่มปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยทั้งปี 2563 ลงประมาณ 5.2% เหลือ 69.7 บาทต่อหุ้น และปรับลดประมาณการกำไรลง 3.3% เหลือ 85.6 บาทต่อหุ้น
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65%
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 30.2% ในเดือนเม.ย. สู่ระดับ 891,000 ยูนิต จากระดับ 1.276 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. ขณะที่ตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างบ้านลดลง 20.8% สู่ระดับ 1.074 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2558
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พร้อมที่จะอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐ และเขากำลังจับตาความเสียหายในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น และหากเกิดการล้มละลายจำนวนมาก เฟดและสภาคองเกรสก็อาจจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการครั้งใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) ขานรับรายงานข่าวที่ว่า ฝรั่งเศสและเยอรมนีเสนอตั้งกองทุนฟื้นฟูวงเงิน 5 แสนล้านยูโร
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันต่อสภาคองเกรสสหรัฐว่า เฟดพร้อมที่จะอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐ
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 28-29 เม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ค.จากมาร์กิต, ยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.จาก Conference Board

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 พ.ค. 63)

Tags: , , ,
Back to Top