นางป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงการผ่อนคลายมาตรการบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ถึงเวลา 23.00 น. ตามประกาศ กทม. เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 51) ว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัย ได้สร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการสถานที่ เพื่อการจัดประชุม สัมมนา หรือการจัดงาน ตามประกาศ กทม. เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ฉบับที่ 51 ในการปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัย
รวมทั้งแนวทางปฏิบัติที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กำหนดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการให้บริการบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้เฉพาะสถานที่ที่ผ่านการตรวจมาตรฐานระดับ SHA Plus หรือตามมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยป้องกันโรคโควิด-19 รองรับสุขภาพดีวิถีใหม่ (Thai Stop Covid 2 Plus) แล้วเท่านั้น ตามเวลาที่กำหนดและให้บริการบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ไม่เกินเวลา 23.00 น.
ในขณะเดียวกัน ได้เตรียมความพร้อมแผนการตรวจติดตามสถานประกอบการและสถานที่ให้บริการ เพื่อการจัดประชุม สัมมนา หรือการจัดงานในโรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ สถานที่ให้บริการห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกันในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด รวมทั้งมาตรการดำเนินการกับสถานประกอบการที่หลีกเลี่ยง หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด และเป็นเหตุให้เกิดความเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 อีกด้วย
ด้านนายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม. กล่าวว่า สำนักเทศกิจ ได้จัดชุดตรวจบูรณาการเพิ่มความเข้มงวดกวดขันตรวจสอบสถานที่จัดประชุม สัมมนา หรือการจัดงานในโรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งได้รับการผ่อนคลายให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกินเวลา 23.00 น. แต่ต้องได้รับการตรวจประเมินตามมาตรฐาน SHA Plus จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ TSC2 Plus จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ขณะเดียวกัน ได้ตรวจสถานประกอบการ ร้านอาหาร และผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ได้รับอนุญาตให้ปรับเปลี่ยนเปิดเป็นร้านอาหาร ต้องได้รับอนุญาตตามมาตรฐาน SHA Plus และ TSC2 Plus ด้วย หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดจะถูกดำเนินคดี โดยที่ผ่านมาตรวจพบร้านอาหาร และสถานประกอบการหลายแห่งฝ่าฝืนถูกดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และสั่งให้ปิดการประกอบกิจการชั่วคราว
นอกจากนี้ ชุดตรวจบูรณาการยังได้กำชับผู้ประกอบการและผู้รับบริการให้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และ Universal Prevention โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม สถานที่ บุคลากรที่ให้บริการ รวมถึงผู้รับบริการ ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามมาตรการที่จำเป็นต้องปฏิบัติ ได้แก่ การเว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่นโดยไม่จำเป็น การสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ และเจ้าของสถานที่ต้องจัดให้มีจุดบริการเจล หรือแอลกอฮอล์ล้างมืออย่างทั่วถึงเพียงพอ รวมทั้งต้องจัดให้มีเครื่องมือสำหรับตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 มี.ค. 65)
Tags: COVID Free Setting, COVID-19, กทม., กรุงเทพมหานคร, ป่านฤดี มโนมัยพิบูลย์, มาตรการป้องกันโควิด, ศุภกฤต บุญขันธ์, สุรา, แอลกอฮอล์, โควิด-19