ครม. เห็นชอบไทยเข้าเป็นสมาชิก FATF ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ไทยสมัครเข้าเป็นสมาชิกของคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (Financial Action Task Force: FATF) ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เสนอ ซึ่งคณะทำงานเฉพาะกิจ FATF นี้ เป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างรัฐบาล จัดตั้งขึ้นโดยที่ประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ G7 ในปี 2532 ปัจจุบันมีสมาชิก 39 ราย และมีเครือข่ายความร่วมมือ 9 แห่ง ในทุกภูมิภาคของโลก

โดยทำหน้าที่ส่งเสริมและติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFT)

สำหรับการสมัครเข้าเป็นสมาชิกของไทยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFT) และเพิ่มประสิทธิผลในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการแพร่ขยายอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง รวมถึงการรักษาเสถียรภาพระบบการเงินระหว่างประเทศ

ส่วนกรอบระยะเวลาดำเนินการ คือ หลังจากไทยมีหนังสือแสดงเจตจำนงในการสมัครเข้าเป็นสมาชิก FATF ภายในเดือนมี.ค. 65 แล้ว ที่ประชุมใหญ่ FATF จะพิจารณาข้อมูล เช่น ขนาด GDP ขนาดภาคธุรกิจ ขนาดประชากร อิทธิพลต่อระบบการเงินโลก และจะพิจารณาเดินทางเยือนไทยเพื่อประเมิน

ทั้งนี้ ภายในปี 66 หากผลการเยือนเป็นที่น่าพอใจ ที่ประชุมใหญ่ FATF จะพิจารณาเชิญประเทศไทยเข้าร่วมการประชุม FATF ในฐานะผู้สังเกตการณ์เป็นเวลา 3 ปี และจะทำการประเมินเพื่อพิจารณารอบสุดท้ายในการให้สมาชิกภาพกับไทยต่อไป

“การเข้าเป็นสมาชิก FATF ของไทย จะเพิ่มบทบาทการทำงานด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFT) ในเวทีระหว่างประเทศ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะประเทศที่มีการดำเนินงานตามมาตรฐานสากล ซึ่งจะเพิ่มความน่าเชื่อถือด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ อันจะนำไปสูความร่วมมือระหว่างประเทศต่อไปในอนาคต”

น.ส.รัชดา กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มี.ค. 65)

Tags: , , , ,
Back to Top