จีนพบติดโควิดเพิ่มเกือบ 3,400 คน มากสุดในรอบสองปี

สื่อต่างประเทศรายงานว่า จีนพบผู้ติดชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเกือบ 3,400 รายในวันนี้ (13 มี.ค.) ซึ่งสูงกว่าวันก่อนถึง 2 เท่า ขณะที่ทางการเร่งสกัดการแพร่ระบาดที่รุนแรงที่สุดในรอบสองปี ซึ่งนำไปสู่การล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่

ยอดผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศนำไปสู่การปิดโรงเรียนในเซี่ยงไฮ้ และล็อกดาวน์เมืองทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายแห่ง ขณะที่มณฑล 19 แห่งเผชิญการระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนและเดลตา

รายงานระบุว่า เมืองจี๋หลินประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นบางส่วน ส่วนเมืองหยานจี๋ซึ่งติดกับเกาหลีเหนือได้ล็อกดาวน์แล้วทั้งเมือง

ทั้งนี้ เมืองจี๋หลินได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อให้ประชาชนจำนวนมากมาแล้ว 6 รอบ และพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนกว่า 500 คนในวันนี้

ส่วนเมืองฉางชุนซึ่งอยู่ติดกันและเป็นเมืองอุตสาหกรรม ประกาศล็อกดาวน์ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 มี.ค.) ขณะที่เมืองซีผิงและเมืองตุนฮัวได้ประกาศล็อกดาวน์แล้วเช่นกัน

การระบาดในขณะนี้เนื่องจากไวรัสโอมิครอน ประกอบกับผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการเป็นความท้าทายต่อการใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์หรือ Covid Zero ของจีน

ทางด้านายจาง หยาน เจ้าหน้าที่มณฑลจี๋หลิน พร้อมคณะกรรมการประจำมณฑลยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยังขาดความพร้อมในการรับมือไวรัส

“กลไกการรับมือฉุกเฉินในบางพื้นที่ยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ คนยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับไวรัสโอมิครอน และการตัดสินใจยังไม่แม่นยำพอ”

นายจางแถลงต่อผู้สื่อข่าว

นอกจากนี้ สถานการณ์การระบาดยังทำให้นายกเทศมนตรีเมืองจี๋หลินและหัวหน้าคณะกรรมการสุขภาพเมืองฉางชุนถูกปลดจากตำแหน่งเมื่อวันเสาร์ (12 มี.ค.) อย่างไรก็ดี ความเหน็ดเหนื่อยจากการใช้มาตรการสกัดโควิดที่เข้มงวดในจีน ทางด้านเจ้าหน้าที่จึงได้เสนอให้รัฐบาลหันมาใช้มาตรการที่ผ่อนปรนและควบคุมไวรัสได้ตรงจุดมากกว่า ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์เตือนว่า การใช้วิธีมุ่งสกัดโควิดที่เข้มงวดมากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ส่วนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ระดับสูงของจีนยังแนะนำให้หันมาอยู่ร่วมกับโควิดแทน เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ซึ่งมีการระบาดของไวรัสโอมิครอนรุนแรง

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) ของจีนประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า จะอนุญาตให้ประชาชนใช้ชุดตรวจหาโควิดด้วยตัวเอง (ATK) ได้ โดยจะวางจำหน่ายทางออนไลน์และร้านขายยาสำหรับประชาชนและคลินิก เพื่อแก้ไขปัญหาหลังมีคนจำนวนมากแห่ไปตรวจหาเชื้อจนล้นโรงพยาบาล

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มี.ค. 65)

Tags: , , ,
Back to Top