สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทสตาร์บัคส์ คอร์ป จะปรับเพิ่มราคาเมนูในสหรัฐในปีนี้พร้อมลดค่าใช้จ่ายบางด้านเพื่อชดเชยต้นทุนค่าแรงและค่าสินค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้สตาร์บัคส์ปรับลดประมาณการผลกำไรในปีนี้
นายเควิน จอห์นสัน ซีอีโอของสตาร์บัคส์ กล่าวในการแถลงผลประกอบการว่า หลังจากที่ได้ปรับราคาเมนูเมื่อเดือนต.ค.และเดือนม.ค.ที่ผ่านมาแล้ว สตาร์บัคส์มีแผนจะปรับราคาอีกครั้งในปีนี้ และจะตัดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและการส่งเสริมการขาย
ทั้งนี้ ธุรกิจร้านอาหารต่างก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อครั้งประวัติการณ์ โดยต้นทุนทุกอย่างแพงขึ้น ตั้งแต่วัตถุดิบอย่างเนื้อไก่และน้ำมันทำอาหาร ไปจนถึงค่าขนส่งและบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ กิจการหลายแห่งรวมถึงสตาร์บัคส์ยังต้องขึ้นค่าแรงเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานขาดแคลนจากสถานการณ์โควิด-19 อีกด้วย
“เมื่อเริ่มเกิดระลอกโอมิครอน ต้นทุนค่าเงินเฟ้อและปัญหาพนักงานขาดแคลนยิ่งหนักหน่วงขึ้นมากเกินกว่าที่เราคาดไว้” นายจอห์นสันกล่าว
เมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) สตาร์บัคส์เปิดเผยตัวเลขกำไรในไตรมาส 4/64 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากโควิดสายพันธุ์โอมิครอนทำให้ออฟฟิศต่าง ๆ กลับมาเปิดทำการล่าช้าและทำให้จีนใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่อีกด้วย ซึ่งจีนเป็นตลาดที่สตาร์บัคส์มีการเติบโตเร็วที่สุด
สตาร์บัคส์เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 72 เซนต์/หุ้น ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 80 เซนต์/หุ้น อย่างไรก็ดี บริษัทมีรายได้ 8.05 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.95 พันล้านดอลลาร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.พ. 65)
Tags: Starbuck, สตาร์บัคส์