ญี่ปุ่นมีแนวโน้มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้นให้กับประชาชนต่ำกว่าเป้าที่ตั้งเอาไว้ที่เกือบ 15 ล้านคนในเดือนนี้ หลังการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนทำให้แผนการเบื้องต้นปั่นป่วน
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า มีประชาชนราว 2.6 ล้านคนได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 ณ วันที่ 25 ม.ค. ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 18% ของเป้าหมายสำหรับเดือนม.ค. ขณะที่ Bloomberg Vaccine Tracker เผยว่า จนถึงขณะนี้ ญี่ปุ่นจำกัดโครงการฉีดวัคซีนให้อยู่ในกลุ่มบุคลากรแพทย์และผู้สูงอายุเท่านั้น ซึ่งหมายความว่ามีประชากรเพียง 2.1% ของประเทศที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 ซึ่งเป็นสัดส่วนต่ำสุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยข้อมูลจากสื่อมวลชนท้องถิ่นว่า ญี่ปุ่นกำลังเผชิญการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโอมิครอน ซึ่งสร้างภาระต่อระบบการดูแลสุขภาพและเตรียมยกเครื่องวิธีการรับมือกับไวรัสดังกล่าว ขณะที่โครงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นต้องสะดุด เพราะรัฐบาลกลางตัดสินใจร่นกำหนดการให้เร็วขึ้นถึง 2 ครั้ง ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นเตรียมความพร้อมไม่ทัน
สัปดาห์นี้ ญี่ปุ่นระบุว่า ผู้ที่มีประวัติติดต่อใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 และแสดงอาการของโรคในภายหลังจะต้องจัดอยู่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อ อีกทั้งยังมีกระแสเรียกร้องเพิ่มมากขึ้นให้รับมือกับไวรัสชนิดดังกล่าวในฐานะโรคเฉพาะถิ่น
ญี่ปุ่นได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับบุคลากรแพทย์และผู้สูงอายุในบ้านพักคนชราเมื่อเดือนธ.ค. และวางแผนฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วไปในช่วงเดือนมี.ค. ขณะที่ปัจจุบันมีประมาณ 80% ของประชากรทั้งหมดได้รับวัคซีน 2 เข็ม ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงสุด และประสบความสำเร็จโดยไม่ได้ใช้มาตรการบังคับใด ๆ
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมขยายประกาศภาวะกึ่งฉุกเฉินครอบคลุม 34 จังหวัดจากทั้งหมด 47 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเพิ่มอีก 18 จังหวัด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 27 ม.ค. ถึง 20 ก.พ.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ม.ค. 65)
Tags: COVID-19, ญี่ปุ่น, บูสเตอร์โดส, วัคซีนเข็มกระตุ้น, วัคซีนเข็มบูสเตอร์, โควิด-19, โอมิครอน