อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ใกล้ 0% ในวันนี้ (8 พ.ค.) หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ซบเซา โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ณ เวลา 00.01 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 0.662% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.375% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 0.125% หลังจากดิ่งลงแตะ 0.105% ในช่วงแรก
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรดิ่งลง 20.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขการจ้างงานที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดี ตัวเลขการจ้างงานในเดือนเม.ย.ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 21.5 ล้านตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นสู่ระดับ 14.7% ในเดือนเม.ย. ซึ่งสูงกว่าระดับ 10.8% ซึ่งเป็นอัตราการว่างงานสูงสุดในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ต่ำกว่าระดับ 24.9% ซึ่งเป็นตัวเลขอัตราการว่างงานในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ส่วนตัวเลขอัตราการว่างงานสูงสุดในช่วงเกิดวิกฤตการเงินในเดือนต.ค.2552 อยู่ที่ระดับ 10%
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 16% ในเดือนเม.ย. หลังจากอยู่ที่ระดับ 4.4% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2560 ขณะที่แตะระดับ 3.5% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
การทรุดตัวลงของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก
จำนวนคนว่างงานในเดือนเม.ย.พุ่งสู่ระดับ 23.1 ล้านราย เพิ่มขึ้น 15.9 ล้านรายเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่เจ้าหน้าที่การค้าของทั้งสองประเทศยืนยันความร่วมมือในการส่งเสริมเศรษฐกิจมหภาคเพื่อเอื้ออำนวยต่อการดำเนินการตามข้อตกลงการค้าเฟสแรก
ทั้งนี้ นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และหัวหน้าคณะเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ในวันนี้ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันว่าจะร่วมมือกันในการส่งเสริมเศรษฐกิจมหภาคเพื่อสร้างบรรยากาศและภาวะต่างๆ ที่เอื้ออำนวยกับการดำเนินการตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างจีนและสหรัฐ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จีนและสหรัฐยังได้ตกลงร่วมกันว่า ทั้งสองฝ่ายจะยังคงติดต่อสื่อสารและประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง
ภายใต้ข้อตกลงการค้าเฟสแรกซึ่งจีนและสหรัฐได้ลงนามร่วมกันเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมานั้น จีนได้ตกลงที่จะเพิ่มคำสั่งซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐในช่วง 2 ปีข้างหน้าอีกอย่างน้อย 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงสินค้าเกษตรมูลค่า 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้สหรัฐลดการขาดดุลการค้ากับจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 63)
Tags: บอนด์, ผลตอบแทนพันธบัตร, พันธบัตร, สงครามการค้า, สหรัฐ, เศรษฐกิจสหรัฐ