นายคาร์ล เลาเทอร์บัค รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนีเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ RND ในวันนี้ว่า เยอรมนีจำเป็นต้องเร่งปูพรมฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนอีก 15 ล้านราย โดยมีเป้าหมายที่จะชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนและหลีกเลี่ยงไม่ให้ประชาชนป่วยหนักจนต้องเข้ารักษาตัวในหออภิบาลผู้ป่วยหนัก (ICU) ในจำนวนมากเกินไป
ทั้งนี้ นายเลาเทอร์บัคเปิดเผยว่า แบบจำลองที่จัดทำโดยสถาบัน Robert Koch Institute แสดงให้เห็นว่ากว่า 80% ของประชาชนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้วจำเป็นต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 เพิ่มเติม
ในจำนวนประชาชน 59.3 ล้านคนของเยอรมนี หรือคิดเป็นสัดส่วน 71.3% ที่ได้รับวัคซีนครบโดสนั้น มีอยู่ 32.7 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์แล้ว หมายความว่าจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ให้กับประชาชนอีก 15 ล้านรายเพื่อให้ข้ามเกณฑ์ 80% ที่นักไวรัสวิทยาเชื่อว่าจำเป็นสำหรับการป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วกว่าเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อื่น ๆ
รัฐบาลเยอรมนีได้จำกัดการรวมกลุ่มของประชาชนที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่เกิน 10 คน พร้อมกับปิดคลับและดิสโก้ ตลอดจนสั่งห้ามประชาชนเข้ารับชมกิจกรรมขนาดใหญ่ รวมถึง การแข่งขันฟุตบอล แต่ไม่ได้ออกคำสั่งล็อกดาวน์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสกัดการระบาดระลอก 4
นายเลาเทอร์บัคระบุว่า การบังคับใช้มาตรการจำกัดการติดต่อ ประกอบกับความพยายามในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบเกณฑ์ 80% จะช่วยชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
“มาตรการที่กล่าวมาข้างต้นจะทำให้ไวรัสไอมิครอนยากที่จะแพร่ระบาด การฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์คือการป้องกันไวรัสโอมิครอนที่ดีที่สุด” นายเลาเทอร์บัค กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ม.ค. 65)
Tags: COVID-19, คาร์ล เลาเทอร์บัค, ฉีดวัคซีนโควิด, วัคซีนเข็มบูสเตอร์, เยอรมนี, โควิด-19, โอมิครอน