นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่ง Sideway up ตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวขึ้น และราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น รวมถึงเงินนอกยังคงไหลเข้าต่อเนื่อง แนะติดตามการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ และแรงขาย LTF ที่ครบกำหนด 7 ปี
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่ง Sideway up เป็นไปตามทิศทางของตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดต่างประเทศ ที่ต่างก็ปรับตัวขึ้น และราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นด้วย ขณะเดียวกันการไหลเข้าของเงินนอกก็ยังคงมีแนวโน้มไหลเข้าต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดีให้ติดตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศ และแรงขาย LTF ที่ครบกำหนด 7 ปี ซึ่งอาจจะเป็นตัวจำกัดอัพไซต์ของตลาด รวมถึงจะต้องระวังอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) อายุ 10 ปีของสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นมา 1.62% อาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไรในระยะสั้น
ให้แนวต้านไว้ที่ 1,660-1,670 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,650-1,655 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,585.06 จุด เพิ่มขึ้น 246.76 จุด(+0.68%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,796.56 จุด เพิ่มขึ้น 30.38 จุด (+0.64%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,832.80 จุด เพิ่มขึ้น 187.83 จุด (+1.20%)
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 306.7 จุด หรือ +1.07%, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 9.37 จุด หรือ 0.26% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 125.87 จุด หรือ +0.54%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ธ.ค.) 1,657.62 จุด เพิ่มขึ้น 4.29 จุด (+0.26%)
– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,665.30 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.64
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 ม.ค.) ปิดที่ระดับ 76.08 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.2%
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 ม.ค.) อยู่ที่ 6.12 ดอลลาร์/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 33.26 แข็งค่าจากวันทำการสุดท้ายของปี นลท.คลายกังวลโอมิครอน-รอปัจจัยใหม่
– ไทยพบ “โอมิครอน” เพิ่ม 229 ราย สะสม 1,780 ราย “อนุทิน” ชง “ศบค.” เลื่อนเปิด Test & Go ถึงสิ้นเดือน ม.ค.65 คนลงทะเบียนแล้วต้องเข้าไทย ภายในวันที่ 10 ม.ค. สธ.จ่อถกเลื่อนเปิดผับบาร์วันนี้ “ท่องเที่ยว” ปาดเหงื่อฝ่าพิษโควิดต่อ “พิพัฒน์” คาดต่างชาติเที่ยวไทย 5-15 ล้านคน ชง “ศบค.” 7 ม.ค. เพิ่มแซนด์บ็อกซ์ ลุ้นปลดล็อก Test & Go แอร์ไลน์หวัง “จีนเปิดประเทศ” ปี 65 ต่อลมหายใจธุรกิจ
– รัฐ-เอกชนมั่นใจส่งออก ปี 65 โตต่อเนื่อง พาณิชย์คาด 3-4% สรท.ประเมิน 5% จับตาปัจจัยเสี่ยง “โอมิครอน-ราคาน้ำมัน-แรงงานขาด” ชี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง ยานยนต์ สิ่งทอเครื่องนุ่งห่มสดใส โตเกิน 10% “พาณิชย์” ดัน 5 ยุทธศาสตร์ อัด 159 กิจกรรม หนุนตัวเลขส่งออก
– รมว.คลัง ประกาศนโยบายปี 65 ลดมาตรการเยียวยา เพิ่มลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัว “ศุภวุฒิ” หนุนรัฐก้าวข้ามโอมิครอน เดินหน้าปลุกจีดีพีเติบโตเท่าทันคู่แข่ง ขณะที่เงินเฟ้อ-โควิด ปัจจัยท้าทาย “นักค้าเงิน” ชี้แนวโน้มเงินบาทผันผวนหนัก คาดแบงก์ชาติตรึงดอกเบี้ย 0.5% ยาวถึงสิ้นปี
– “ศักดิ์สยาม” ลุยแผนลงทุนปี 65 พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 36 โครงการ กว่า 1.98 ล้านล้านบาท ครอบ คลุมทางบก ราง น้ำ อากาศ เตรียมเปิด PPP กว่า 5.117 แสนล้าน พร้อมสั่งหน่วยงาน บูรณาการปรับรูปแบบลงทุน เพิ่มความคล่องตัว ทั้งใช้ PPP หรือ TFF ย้ำการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแม้ใช้งบสูง แต่เป็นการสร้างศักยภาพด้านโลจิสติกส์ของประเทศให้แข็งแรงและแข่งขันได้
– “เรืองไกร-ศรีสุวรรณ” เตรียมยื่นยุบพรรคเพื่อไทยซ้ำอีกรอบ หลัง “พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี” อ้างคำพูด “ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรค ระบุ “ทักษิณ” สั่งปลดพ้นสมาชิกพรรค
– แนวโน้มการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปปี 65 ยังมาแรงรับกระแสลดโลกร้อนตามเทรนด์โลก ประชาชนต้องการลดค่าไฟฟ้า และรองรับรัฐคลอดแพกเกจส่งเสริมการใช้รถ EV แถมแบตเตอรี่ราคาต่ำลง ยิ่งส่งเสริมการใช้ คาดการติดตั้งจะเป็นรูปแบบไฮบริดมากขึ้น ในรูปแบบโซลาร์ฯ บวกแบตเตอรี่
-EPG (เมย์แบงก์) เป้าเชิงกลยุทธ์ 15 บาท คาดกำไร ต.ค.-ธ.ค.64 ที่ 443 ล้านบาท (+8%QoQ,+3%YoY) จาก Covid-19 ผ่อนคลาย ปัญหาเรือขาดแคลนดีขึ้น และแนวโน้มปี 65 จะเติบโตดี และ ทำสถิติสูงสุดใหม่ แรงหนุนการเติบโตทั้งสามธุรกิจ AeroFlex, AeroKlas และ EPP และมีปันผลราว 3.7%ต่อปี
– ITEL (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 6.20 บาท คาดกำไรสุทธิ Q4/64 และทั้งปี 64 และ 65 จะพุ่งทำ New high จากการรับรู้รายได้ของงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่กว่า 3,300 ล้านบาท เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ Q4/64 ที่ 91 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 40%qoq และ 153%yoy คาดกำไรสุทธิปี 64 และ 65 ที่ 248 และ 324 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 35%yoy และ 32%yoy
– JMART (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 62 บาท ประเมินรายได้ J Group โตทุกธุรกิจ Platform Blockchain พร้อมทำงานเพื่อรองรับทุกกิจกรรมในกลุ่มและพันธมิตร คาด Transaction แน่น คาดความสามารถในการทำกำไรจะสูงขึ้นหลังผนึก Big Partner ทั้ง BTS Group และ KBANK ต่อยอดการขายสินค้าและบริการรูปแบบใหม่ พร้อมฐานลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 64-65 ที่ 1.2 พัน ลบ. และ 1.9 พัน ลบ. +52%YoY, +59%YoY ตามลำดับ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ม.ค. 65)
Tags: SET, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย