ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยผลสำรวจภาวะและแนวโน้มสินเชื่อ (Senior Loan Officer Survey) โดยระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ในสหรัฐได้ผ่อนคลายมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจ, นักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ และภาคครัวเรือนในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐสามารถต้านทานการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกล่าสุด
ผลสำรวจดังกล่าวซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจนั้นยังระบุด้วยว่า ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ได้ผ่อนคลายมาตรฐานการปล่อยกู้ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย, ขยายวงเงินสินเชื่อ หรือกำหนดเงื่อนไขที่มีความเข้มงวดน้อยลง
ผลสำรวจบ่งชี้ว่า ธนาคารพาณิชย์ได้ระบุถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่สดใสหรือมีความไม่แน่นอนลดน้อยลง รวมทั้งการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มธนาคารด้วยกัน และยังระบุถึงนโยบายการอดทนต่อความเสี่ยงมากขึ้น ท่ามกลางสภาวะตลาดและเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มโดยรวมดีขึ้น ขณะที่ความต้องการเงินกู้ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทขนาดกลางและขนาดใหญ่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลสำรวจของเฟดยังระบุด้วยว่า ธนาคารพาณิชย์ได้ผ่อนคลายมาตรฐานการปล่อยกู้ให้กับบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ และความต้องการเงินกู้ของบริษัทเหล่านี้ก็เพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ยังผ่อนคลายมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตและผู้ยื่นขอเงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์ด้วยการปรับลดข้อกำหนดด้านคะแนนเครดิต (credit score) หรือเพิ่มวงเงินสินเชื่อสูงสุด (credit limit)
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจระบุว่า ธนาคารส่วนใหญ่มองว่า ความต้องการสินเชื่อสำหรับภาคธุรกิจและเงินกู้ผ่านบัตรเครดิตยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่คาดว่าความต้องการสินเชื่อจะแข็งแกร่งขึ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ย. 64)
Tags: ธนาคารกลางสหรัฐ, สหรัฐ, สินเชื่อ, เฟด, เศรษฐกิจสหรัฐ