นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนกันยายน 2564 ส่งออกได้ 73,831 คัน เพิ่มขึ้น 15.47% จากเดือนกันยายน 2563 ซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 44,777.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.80% จากเดือนกันยายน 2563 และเพิ่มขึ้น 23.94% จากเดือนสิงหาคม 2564
เนื่องจากได้รับส่งมอบเซมิคอมดักเตอร์ (ชิป) และชิ้นส่วนรถยนต์จากประเทศคู่ค้าที่คลายการล็อกดาวน์ ทำให้สามารถผลิตเพื่อส่งออกได้ถึง 58.04% ของยอดผลิตทั้งหมด เพื่อส่งออกชดเชยเดือนสิงหาคม 2564 ที่ส่งออกต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ทำให้ส่งออกได้เพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดเอเชีย และตลาดอเมริกาเหนือที่ลดลง
ทั้งนี้ ส.อ.ท.คาดว่ายอดการผลิตรถยนต์ในปีนี้จะทำได้เกินเป้าหมายที่ 1.6 ล้านคัน หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยเป็นยอดส่งออกเกิน 850,000 คัน ส่วนยอดขายในประเทศน่าจะถึง 750,000 คัน
“มั่นใจว่ายอดผลิตปีนี้น่าจะได้เกินเป้าระดับบน (1.55-1.6 ล้านคัน) หากโควิดไม่กลับมาระบาดหนัก หมดปัญหาเรื่องชิปและชิ้นส่วน หลังยอดส่งออกกลับมาฟื้นตัวเป็นที่น่าพอใจ ส่วนการปรับเป้านั้นขอดูตัวเลขเดือนตุลาคมอีกที” นายสุรพงษ์ กล่าว
สำหรับยอดการผลิตรถยนต์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.64) มีจำนวนทั้งสิ้น 1,211,946 คัน เพิ่มขึ้น 25.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 531,931 คัน ลดลง 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 677,481 คัน เพิ่มขึ้น 29.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ยอดขายในประเทศขึ้นอยู่กับช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งจะมีการจัดงานมหกรรมยานยนต์ และการจัดโปรโมชั่นของค่ายรถยนต์ โดยหวังว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจะช่วยให้ยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้นด้วย
ด้าน นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ฯ กล่าวว่า ประเมินจากช่วงเวลาที่เหลืออีก 3 เดือน หากมียอดขายในประเทศและยอดส่งออกเฉลี่ยเดือนละ 70,000 คัน จะทำให้ปีนี้มียอดขายในประเทศรวม 720,000 คัน และยอดส่งออกรวม 880,000 คัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ต.ค. 64)
Tags: ผลิตรถยนต์, รถยนต์, ส.อ.ท., สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์, อุตสาหกรรมยานยนต์