นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุขว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของบุคลากรสาธารณสุข ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ข้อมูล ณ วันที่ 15 เมษายน 2563 พบบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุขติดเชื้อ 99 ราย คิดเป็น 3.75% ของผู้ป่วยทั้งหมด ในขณะที่ทั่วโลกพบ 4-9%
ที่ประชุมฯ จึงมีมติให้ประกาศเป้าหมาย เรื่องความปลอดภัยของบุคลากรสาธารณสุขในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำ เพื่อให้สถานพยาบาลทุกแห่งดำเนินการสร้างความปลอดภัยแก่บุคลากรสาธารณสุขในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมั่นใจ
มีสาระสำคัญ คือ ให้สถานพยาบาลทุกแห่งประกาศเป้าหมายและแนวทางปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยของบุคลากร จัดสรรหน้ากากอนามัย Surgical Mask ให้เพียงพอและบริหารจัดการหน้ากาก N95 รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันอื่นๆ ให้มีสำรองพร้อมใช้
หากบุคลากรสาธารณสุขมีความเสี่ยงหรือสงสัยติดเชื้อต้องได้รับการตรวจคัดกรองและรักษาทันที พร้อมตรวจคัดกรองคนในครอบครัว รวมทั้งมีหลักประกันคุ้มครองดูแลและเยียวยาบุคลากรสาธารณสุขที่ติดเชื้อจากการปฏิบัติหน้าที่ และให้มีช่องทางสื่อสารให้ความรู้ รับฟังความต้องการจากบุคลากร
“แพทย์ พยาบาล และทุกภาคส่วนที่ต้องทำงานคัดกรอง ดูแล รักษาผู้ติดเชื้อล้วนมีความเสี่ยง และเป็นกำลังสำคัญในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขต้องดูแลสวัสดิภาพของคนเหล่านั้นให้ดีที่สุดเท่าที่ศักยภาพจะมีได้ เราได้พิจารณาร่างประกาศเรื่องความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ ใจความสำคัญคือ สถานพยาบาลทุกแห่งต้องให้ความสำคัญกับบุคลากรการแพทย์ และต้องออกข้อกำหนดแนวทางการปฏิบัติ เพื่อให้บุคลากรทำงานด้วยความมั่นใจ”
นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกต้องใช้เวชภัณฑ์จำนวนมหาศาล จึงเป็นงานหนักของภาครัฐในการจัดหาเวชภัณฑ์ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ แต่ขอย้ำว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามทำทุกอย่างเพื่อจัดการปัญหาให้ได้โดยเร็ว และเวชภัณฑ์จากกระทรวงสาธารณสุขที่ส่งไปให้คนหน้างานนั้นได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้ว เพื่อความมั่นใจของคนทำงาน
“องค์การอนามัยโลก ให้ความสำคัญกับบุคลากรการแพทย์มาก ด้วยเหตุผลว่า หากบุคลากรสาธารณสุขไม่ปลอดภัย ผู้ป่วยเอง ก็ย่อมไม่ปลอดภัยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การระบาดในทั่วโลก ทำให้อุปกรณ์ที่จำเป็น ทั้งชุด PPE หน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 กลายเป็นสินค้าขาดแคลนระดับโลก ของไทยเองก็ต้องจัดสรรอย่างสุดความสามารถ ทั้งในส่วนที่ผลิตได้เอง และนำเข้ามา จำเป็นต้องวางแผนการจัดหาอย่างดี รวมไปถึงต้องวางแผนการใช้อย่างรัดกุมที่สุด”
นายอนุทิน กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 เม.ย. 63)
Tags: COVID-19, N95, กระทรวงสาธารณสุข, บุคลากรทางการแพทย์, หน้ากากอนามัย, อนุทิน ชาญวีรกูล, โควิด-19