ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าในแดนลบ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาฉุดความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงราคาน้ำมันและโลหะให้ดิ่งลง
- ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,905.73 จุด เพิ่มขึ้น 85.69 จุด หรือ +0.31%
- ส่วนดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,359.72 จุด เพิ่มขึ้น 76.32 จุด หรือ +0.29%
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งยังคงสร้างแรงกดดันในระยะนี้ โดยยอดผู้ติดเชื้อและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากโรคโควิด-19 ในสหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 หกเดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาในหลายพื้นที่ของประเทศ รวมถึงอัตราการฉีดวัคซีนที่ระดับต่ำ ซึ่งข้อมูลด้านสาธารณสุขระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อของสหรัฐเฉลี่ยรายวันอยู่ที่ 100,000 รายต่อเนื่องมา 3 วัน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 35%
ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ในช่วงเวลา 6 เดือนจนถึงเดือนมิ.ย.ปีนี้ มีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 84 รายเสียชีวิตในระหว่างการรักษาตัวที่บ้าน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจมีผู้เสียชีวิตในระหว่างการรักษาตัวที่บ้านเพิ่มขึ้นอีก ในช่วงเวลาที่ระบบสุขภาพของญี่ปุ่นที่กำลังเผชิญภาระหนัก
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่เปิดเผยเมื่อช่วงเช้านี้ ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจของออสเตรเลียร่วงลงอย่างหนักในเดือนก.ค.ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ฉุดภาคธุรกิจบริการและความเชื่อมั่นโดยรวมดิ่งลง
ผลสำรวจของ NAB ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจของออสเตรเลียในเดือนก.ค.ร่วงลง 14 จุด แตะที่ระดับ +11 แม้ดัชนียังคงอยู่เหนือค่าเฉลี่ยในระยะยาว เนื่องจากได้แรงหนุนจากระดับดัชนีที่สูงเป็นประวัติการณ์ก่อนการล็อกดาวน์ ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ค. ดิ่งลง 19 จุด สู่ระดับ -8 จุด เนื่องจากการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ส่วนใหญ่ของนครซิดนีย์เกือบตลอดทั้งเดือน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ส.ค. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นเอเชีย