เงินบาทเปิด 32.95 ตัวเลขศก.สหรัฐกดดันดอลลาร์อ่อนค่า คาดกรอบวันนี้ 32.90-33.05

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.95 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.95/97 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้จึงเป็นแรงกดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงและดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยในประเทศจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และนักลงทุนรอดูผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้

“บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้เล็กน้อย เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าหลังดัชนี ISM ภาคการผลิตออกมาต่ำกว่าคาด และนักลงทุนค่อนข้างระมัดระวังตัวรอดูผลประชุม กนง.”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.90-33.05 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (2 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.27411% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.29333%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 109.29 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 109.65 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1870 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1883 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.959 บาท/ดอลลาร์
  • ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่าจะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% ต่อปี ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และอาจแสดงความกังวลต่อความเสี่ยงด้านขาลงของเศรษฐกิจไทยที่เปิดกว้างมากขึ้น เพราะการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีแนวโน้มรุนแรงยืดเยื้อ การขยายมาตรการควบคุมโรคและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความเปราะบางของตลาดแรงงาน รวมถึงการฉีดวัคซีนที่ช้ากว่าเป้าหมาย ด้านการใช้จ่ายในประเทศที่อ่อนแอยังส่งผลต่อเงินเฟ้อให้ต่ำลงด้วย
  • ผลสำรวจเอฟทีไอ โพล ครั้งที่ 8 ในเดือน ก.ค.64 หัวข้อการจัดการปัญหาแรงงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จากการสำรวจผู้บริหารระดับสูงของ ส.อ.ท. พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่มองว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดได้ส่งผลกระทบต่อแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ทั้งปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานเข้มข้น ส่งผลให้กำลังการผลิตลดลงและกระทบต่อการส่งออกของไทย โดยโรงงานอุตสาหกรรมบางส่วนได้รับผลกระทบต้องลดกำลังการผลิตลงน้อยกว่า 30% คิดเป็น 45.2% โรงงานที่ไม่ได้รับผลกระทบคิดเป็น 26.5% โรงงานที่กำลังการผลิตลดลง 30-50% คิดเป็น 20.5% และโรงงานที่กำลังการผลิตลดลงมากกว่า 50% คิดเป็น 7.8%
  • หอการค้าไทย ทำหนังสือถึงนายกฯ เสนอแนวทางหยุดแพร่เชื้อ เตรียมทำ “บับเบิล แอนด์ ซีล” เปิดบริษัท โรงงาน ให้พนักงานมาอยู่ ลดเดินทาง จับคู่โรงพยาบาล-โรงแรม ทำที่กักตัวให้พนักงานติดเชื้อกลุ่มสีเขียว ส่วนล็อกดาวน์ 29 จังหวัด เสียหายหนักเดือนละ 3-4 แสนล้านบาท
  • กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า ได้ออกมาตรการทางการเงินช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิดด้วยแพ็กเกจสินเชื่อใหม่ เติมทุนเอส เอ็มอี มีสุข ยิ้มได้ วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เอสเอ็มอี ดี เติมทุน เอสเอ็มอีมีสุข และเอสเอ็มอียิ้มได้เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้มีวงเงินเพิ่มขึ้นนำไปใช้เสริมสภาพคล่อง และลดต้นทุนทางการเงิน
  • “พิพัฒน์” จำใจปรับลดเป้าหมายรายได้-จำนวนนักเที่ยว คาดต่างชาติมาเที่ยวแค่ 5-7 แสนคน ส่วนไทยเที่ยวไทยตอนนี้มีเพียง 24.58 ล้านคน/ครั้ง จากเป้า 100 ล้านคน/ครั้ง ขณะที่ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เริ่มแผ่ว แต่เตรียมโยกการแข่งขันนานาชาติในกรุงเทพฯ จัดที่ภูเก็ตแทน
  • สศช.ชง ครม.วันนี้เพิ่มเยียวยาอีก 16 จังหวัด ในพื้นที่สีแดงเข้ม ขอเพิ่มงบเงินกู้จากเดิม 3 หมื่นล้านบาท หลังจำนวนผู้เยียวยาสูงขึ้น นายกฯ สั่ง “สาธารณสุข” เร่งกระจายยาฟาวิพิราเวียร์ให้ผู้ป่วยตามบ้าน “คลัง” ชี้เพิ่มล็อกดาวน์ไม่กระทบเป้าจีดีพี “ทีดีอาร์ไอ” ห่วงกลุ่มหลุดจากระบบเยียวยา
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ปรับตัวลงในเดือนก.ค.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ รวมทั้งจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย
  • ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ก.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนก.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนมิ.ย., ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ส.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top