แนวโน้มหุ้นไทยเช้าปรับลงตามภูมิภาค วิตกจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนฯ-โควิดระบาดหนัก

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงเช่นเดียวกับตลาดภูมิภาคที่เช้านี้ติดลบกัน หลังตอบรับผลประชุมเฟดไปแล้ว แต่นักลงทุนยังกังวลโควิดระบาดหนัก-จีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึง IMF ก็ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในภูมิภาคลงด้วย ทำให้เกิดการโยกเงินไปลงทุนฝั่งสหรัฐฯ-ยุโรปกัน ส่วนบ้านเราเจอแรงกดดันจากโควิดระบาดหนัก ทำให้ต้องจับตาขยายล็อกดาวน์ออกไปหลังผ่าน 14 วันแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร อย่างไรก็ดีน่าจะมีการเล่นเก็งหุ้นงบฯดี-เก็งหุ้นที่มีประเด็น M&A แม้จะยังไม่ชัดเจน ทั้งนี้ ดัชนีฯไม่ควรหลุดแนวรับ 1,530 แนวต้าน 1,545-1,550 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกันทั่วหน้า หลังจากที่ได้ตอบรับผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ไปแล้วในระดับหนึ่ง แต่นักลงทุนยังมีความกังวลการแพร่ระบาดโควิด-19 และกังวลจีนแทรกแซงกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้ตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นจีนยังปรับตัวลงนำตลาดอื่นในภูมิภาค

นอกจากนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในภูมิภาคลงด้วย นักลงทุนจึงโยกเงินไปเล่นที่ฝั่งสหรัฐฯ และยุโรปกัน ทำให้ตลาดสหรัฐฯ และยุโรปเวลานี้ถือว่าดีมาก

ส่วนบ้านเรายังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 อยู่ จากที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ต้องจับตาการขยายมาตรการล็อกดาวน์หลังผ่าน 14 วันไปแล้ว จะออกมาเป็นอย่างไร พร้อมให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป ซึ่งอาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นที่งบฯออกมาดี และให้ปันผลดีที่ด้วย อย่างหุ้น SCC ให้ปันผลดี รวมถึงอาจมีแรงเก็งกำไรประเด็น M&A แม้จะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนออกมา

ทั้งนี้ ดัชนีฯไม่ควรหลุดแนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,545-1,550 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,084.53 จุด เพิ่มขึ้น 153.60 จุด (+0.44%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,419.15 จุด เพิ่มขึ้น 18.51 จุด (+0.42%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,778.26 จุด เพิ่มขึ้น 15.68 จุด (+0.11%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 13.52 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 104.53 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 272.48 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ก.ค.) 1,537.78 จุด เพิ่มขึ้น 0.15 จุด (+0.01%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 498.43 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ก.ค.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 ก.ค.) ปิด 73.62 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ก.ค.) อยู่ที่ 3.10 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.86 แข็งค่าตามภูมิภาค หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯกดดอลล์อ่อน จับตา Flow สิ้นเดือน
  • สศค.ลดจีดีพีปีนี้เหลือ 1.3% จากเดิม 2.3% ชี้โควิดกระทบกิจกรรมเศรษฐกิจ ฉุดรายได้ต่ำเป้า 2 แสนล้าน ประเมินยอดติดเชื้อสูงสุด ส.ค.นี้ เล็งปัดฝุ่นช้อปดีมีคืน นายกฯเปิดทำเนียบหารือทีมเศรษฐกิจ
  • 3 แบงก์ใหญ่ “ไทยพาณิชย์ กรุงไทย กรุงศรีฯ” เผย ลูกค้ารายย่อย-เอสเอ็มอี ลงทะเบียนพักชำระเงินต้น-ดอกเบี้ย แล้วกว่า 2.7แสนราย ยอดหนี้รวม 3.88 แสนล้านบาท “วงการแบงก์” แย้ม ธปท.อยู่ระหว่างปรับการช่วยเหลือ คาดชัดเจนส.ค.นี้ ด้านสมาคมธนาคาร พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือต่อเนื่อง
  • แนวโน้มหนี้ครัวเรือนปีนี้จ่อแตะ 93% ต่อจีดีพี ธปท.พบคนไทยก่อหนี้ระยะสั้น ดอกเบี้ยแพง หวั่นมีคนชำระหนี้ไม่ได้เพิ่มขึ้นในอนาคต ชี้ที่ผ่านมามีมาตรการพักหนี้ และลดค่างวดช่วยประคองไว้ แต่แบงก์ต้องเร่งแก้หนี้ให้เร็วขึ้น ขณะที่มาตรการการคลัง เน้นช่วยค่าครองชีพไม่ให้คนต้องก่อหนี้ใหม่จนเกินตัว ด้านสมาคมธนาคารไทยโชว์ตัวเลขช่วยเหลือลูกหนี้แล้วกว่า 6 ล้านล้านบัญชี
  • กฟผ.เร่งเดินหน้าโซลาร์ลอยน้ำเขื่อนสิรินธร คาดจ่ายไฟฟ้า ต.ค.64 ด้านเอ็กโก กรุ๊ป ลุยพัฒนาโรงไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา กกพ.เปิดรายชื่อ คณะกรรมการสรรหา กกพ.2 คนแรก
  • นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 ธนาคารสมาชิกได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ตามมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โดยในเดือน ก.ค.63 มีลูกค้าขอรับความช่วยเหลือสูงสุดจำนวน 6 ล้านบัญชีวงเงินความช่วยเหลือรวม 4.25 ล้านล้านบาท เป็นวงเงินสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ 8 แสนล้านบาท ลูกค้า SME 1.8 ล้านล้านบาท และลูกค้ารายย่อย 1.6 ล้านล้านบาทซึ่งที่ผ่านมามีลูกค้าบางส่วนได้ออกจากมาตรการเนื่องจากกลับมาชำระหนี้ได้ในช่วงที่สถานการณ์ดีขึ้น ล่าสุดยังมีลูกค้าอยู่ภายใต้การให้ความช่วยเหลือรวม 1.89 ล้านบัญชี คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือกว่า 2 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ 5.6 แสนล้านบาท ลูกค้า SME 8.2 แสนล้านบาท และลูกค้ารายย่อย 6.2 แสนล้านบาท

หุ้นเด่นวันนี้

  • ADVANC (กรุงศรี)”ซื้อ”เป้า 210 บาท คาดผลกำไร Q2/64 ยังประคองตัวที่ระดับ 6,700 ล้านบาท ทรงตัว qoq และ yoy ในอดีต (มิ.ย.- ส.ค.) ราคาหุ้นจะ Outperform ตลาดจากเข้าซื้อดักเงินปันผลระหว่างกาลปีนี้คาดจ่ายปันผลระหว่างกาล 3.25 บาทให้ Dividend yield 1.8%
  • GLOCON (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 1.50 บาท คาด Q2/64 พลิกมีกำไรเป็นตัวเลข 2 หลักได้ครั้งแรกในรอบ 9 ปีที่ 10 ลบ.จากขาดทุนใน Q1/64 และ Q2/63 จากรายได้ทื่ฟื้นตัวโดยเฉพาะการ Lockdown ทำให้ EZYGO เป็นสินค้าขายดีของ 7-11 Delivery ทั้งนี้ผลการดำเนินงานกำลังเข้าช่วง Turnaround รอบใหญ่ ทั้งการรุกธุรกิจ RTE & Frozen Food รวมถึงการขยายตลาดใหม่อย่าง Plant Based Food และกัญชง โดยคาดกำไรปี 2565-2567 โตเฉลี่ย 64% CAGR
  • LANNA (คิงส์ฟอร์ด)”ซื้อเก็งกำไร”เป้า IAA Consensus 24.50 บาท เป็นผู้ที่มีแหล่งผลิตถ่านหินในอินโดนีเซียได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินในตลาด Seaborne ที่ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลความต้องการใช้ที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสถานการณ์ โควิด-19 ในหลายประเทศเริ่มคลี่คลาย ทำให้มีความต้องการนำเข้าจากทั้งจีน อินเดีย เวียดนาม ไต้หวัน เกาหลี โดยเฉพาะประเทศจีนที่อุปทานภายในประเทศตึงตัวจากมาตรการด้านความปลอดภัย น้ำท่วมทางตอนกลาง และการห้ามนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลีย ส่งผลให้ประเทศจีนต้องหันไปนำเข้าจากแหล่งอื่น ส่งผลให้ราคาถ่านหินยังสามารถยืนในระดับสูงได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ก.ค. 64)

Tags: , ,
Back to Top