นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค ยืนยันว่า จากผลการศึกษาวัคซีน 2 ชนิดทั้งวัคซีนซิโนแวค และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิผลในการป้องกันเชื้อโควิด-19
โดยจากการศึกษาในผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่จังหวัดภูเก็ตและสมุทรสาคร พบ การฉีดวัคซีน CoronaVac ครบ 2 เข็มมีประสิทธิผลสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในสนามจริง 90% และจากการศึกษาในบุคลากรทางการสาธารณสุขที่เชียงรายและฐานข้อมูลทั้ประเทศ พบป้องกันได้ 74-89%
นอกจากนี้ จากการศึกษาที่จังหวัดเชียงราย ยังพบว่า การฉีดวัคซีน CoronaVac ครบ 2 เข็ม ยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันปอดอักเสบรุนแรง ได้ 85% และการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม เกิน 14 วันพบประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ 84% และไม่พบปอดอักเสบจาก 5 รายที่ติดเชื้อในจำนวน 50 คนที่ได้วัคซีน
นพ.ทวีทรัพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการศึกษาในฐานข้อมูลของกรมควบคุมโรค ในเดือนมิ.ย.ที่เริ่มมีการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ยังไม่พบว่าประสิทธิผลการป้องกันการติดเชื้อของวัคซีนลดลงเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ตามในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เชื้อมีการกลายพันธุ์ การนำเข้าวัคซินซิโนแวคยังคงมีความจำเป็นอยู่ เนื่องจากเป็นวัคซีนที่จัดหาได้ง่าย และวัคซีนหลักของประเทศอีกชนิดอย่างวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เดิมมีการตกลงว่าจะนำเข้ามาเดือนละ 10 ล้านโดส แต่ขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลงจึงคาดว่าจะสามารถนำเข้ามาได้เพียง 5 ล้านโดส/เดือนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามวัคซีนซิโนแวคยังมีประสิทธิผลในการป้องกันเชื้ออยู่ทั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการป้องกันจึงต้องมีการฉีดวัคซีนแบบสลับชนิด คือฉีดวัคซีนซิโนแวคในเข็มแรก และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในเข็มที่สอง
สำหรับการฉีดวัคซีนแบบสลับชนิดจะใช้ระยะเวลาห่างกัน 3-4 สัปดาห์ โดยการฉีดวัคซีนแบบสลับชนิดสามารถนำมาใช้ได้กับทุกกลุ่มช่วงอายุ ทั้งนี้ไม่บังคับประชาชนให้ฉีดแบบสลับ แต่เป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้ประชาชนที่มีความสมัครใจฉีด อย่างไรก็ดีผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 โรค ควรเร่งฉีดวัคซีนที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันก่อน เนื่องจากวัคซีนชนิดอื่นๆ ยังไม่มีความแน่นอนในการนำเข้ามา เช่นวัคซีนไฟเซอร์ที่จะกลายเป็นวัคซีนหลักอีกชนิด คาดว่าจะมีการนำเข้ามาในไตรมาส 4/64 แต่ยังไม่ทราบวัน และเดือนที่แน่นอน จึงแนะนำให้กลุ่มเสี่ยงรีบฉีดวัคซีนที่มีไปก่อน และเมื่อมีวัคซีนชนิดอื่นเข้ามาค่อยพิจารณาการฉีดอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจานำเข้าวัคซีนอีก 2 ชนิด คือวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และสปุตนิก แต่ยังไม่สามารถดำเนินการจัดหาได้ในขณะนี้ เนื่องจากทางบริษัท จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ได้ขอเลื่อนการทำสัญญา จากที่โรงงานในสหรัฐฯ ประสบปัญหาด้านแหล่งผลิต ส่วนสปุตนิกยังอยู่ระหว่างรอการจดทะเบียนกับทางองค์การอาหารและยา (อย.)
ในขณะเดียวกันประเทศไทยยังอยู่ระหว่างการศึกษา จัดหาวัคซีนสำหรับปี 65 เพื่อรองรับการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 โดยเริ่มมีการพูดคุย ติดตาม 3-4 บริษัท ที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาวัคซีนรุ่นที่สอง ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอสามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ก.ค. 64)
Tags: AstraZeneca, Sinovac, กรมควบคุมโรค, กระทรวงสาธารณสุข, ซิโนแวก, ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ, วัคซีนต้านโควิด-19, แอสตร้าเซนเนก้า