- ครม.เห็นชอบให้กรมควบคุมโรคลงนามในสัญญาจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ราว 20 ล้านโดส
- ครม.เห็นชอบจัดซื้อวัคซีนซิโนแวก 10.9 ล้านโดสใช้วงเงินกู้ 6.1 พันลบ.
- ครม.เห็นชอบให้ อภ.เซ็นสัญญาซื้อโมเดอร์นาเพื่อเป็นวัคซีนทางเลือก
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้มีมติเห็นชอบการจัดหาวัคซีนต้านโควิดเพิ่มเติมทั้งซิโนแวก ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา
ทั้งนี้ ครม.เห็นชอบให้ใช้วงเงินกู้ราว 6.1 พันล้านบาท เพื่อจัดซื้อวัคซีนซิโนแวกจำนวน 10.9 ล้านโดส ซึ่งเป็นการใช้เงินจากวงเงินกู้ โดยให้กรมควบคุมโรค เป็นผู้ดำเนินการจัดหาวัคซีน โดยแบ่งเป็น ในเดือนกรกฎาคม 3,894.8 ล้านบาท และเดือนสิงหาคม 2,169.96 ล้านบาท โดยมีค่าบริการจัดการวัคซีน 46.65 ล้านบาท
พร้อมทั้งให้กระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนไฟเซอร์เพื่อนำมาใช้เป็นวัคซีนหลักที่จะฉีดให้กับประชาชน โดยมอบหมายให้อธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้ลงนามในสัญญา และเจรจากับผู้ผลิต เบื้องต้นคาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 20 ล้านโดส แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดสัญญาได้
และ ครม.ได้เห็นชอบให้เจรจารับมอบความช่วยเหลือวัคซีนไฟเซอร์อีกส่วนหนึ่งจากรัฐบาลสหรัฐฯ
ส่วนวัคซีนโมเดอร์นาที่จะเป็นวัคซีนทางเลือกของประชาชนที่ต้องชำระเงินค่าวัคซีนให้กับภาคเอกชนนั้น ครม.เห็นชอบให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นตัวกลางจัดหาวัคซีน โดยผู้อำนวยการ อภ.จะเป็นผู้ลงนามในสัญญาจัดซื้อ
นายอนุชา กล่าวว่า โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับบริการประชาชนในประเทศไทยเพิ่มเติม ทั้งซิโนแวกและที่ใช้เทคโนโลยีอื่นและสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์สูงกว่าควบคู่ไปด้วย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชน ตามแผนการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในส่วนที่เหลือเพื่อให้สามารถจัดหาวัคซีนให้แก่ประชาชนให้ครบ 150 ล้านโดส ภายในไม่เกินไตรมาสที่ 2 ของ ปี 2565
“วัคซีนซิโนแวกและไฟเซอร์จะเป็นวัคซีนหลักที่รัฐบาลจัดหามาฉีดให้ประชาชนฟรี ส่วนโมเดอร์น่าจะเป็นวัคซีนทางเลือกที่ประชาชนต้องเสียเงินเอง”
นายอนุชา กล่าว
สำหรับการที่มีแพทย์ออกมาระบุให้ใช้วัคซีนชนิด mRNA เป็นวัคซีนหลักของไทยนั้น นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลมีการหารือกันในวันนี้ถึงความเหมาะสมทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันไทยมีวัคซีนอยู่หลายแพลตฟอร์ม เช่น วัคซีนชนิดเชื้อตาย ได้แก่ ซิโนแวกและซิโนฟาร์ม ขณะที่มีวัคซีนชนิดไวรัลเวคเตอร์ คือ วัคซีนของ แอสตร้าเซนเนก้า และในวันนี้ครม.ก็ได้เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงนามในสัญญาจัดซื้อวัคซีนชนิด mRNA ของบริษัท ไฟเซอร์ (Pfizer) จำนวน 20 ล้านโดส รวมทั้งจะได้รับวัคซีนชนิดนี้จากการรับบริจาคของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ทั้งนี้ เชื่อว่า การที่รัฐบาลเดินหน้าจัดหาวัคซีนที่ครอบคลุมทั้ง 3 แพลตฟอร์มก็จะสามารถช่วยเสริมความมั่นใจให้กับประชาชนได้มากขึ้น
ส่วนความคาดหวังที่ต้องการให้รัฐบาลหยุดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้ได้ภายใน 1 เดือน ด้วยการใช้มาตรการต่างๆควบคู่ไปกับการดูแลด้านเศรษฐกิจนั้น นายอนุชา ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการดูแลด้านสาธารณสุขควบคู่กับการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ เช่น จากมาตรการที่ใช้กับพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ก็ทำให้เห็นว่า รัฐบาลดูแลทั้งสองมิติ และพร้อมที่จะเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งในด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังผลักดันการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของธุรกิจขนาดเล็กและประชาชนที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ก.ค. 64)
Tags: COVID-19, Moderna, Pfizer, Sinovac, ครม., ซิโนแวก, วัคซีนต้านโควิด-19, อนุชา บูรพชัยศรี, โควิด-19, โมเดอร์นา, ไฟเซอร์