
นายธนลภย์ ปรีดามาโนช ผู้จัดการเงินทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยกับ”อินโฟเควสท์” ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยมากมาย ทั้ง Trump’s Tariff และ ความกังวลจาก Recession – Stagflation แต่ก็ยังคงมีปัจจัยบวกจาก Global M2 Supply ที่ทำให้ราคาบิทคอยน์เกิดการปรับตัวสวนตลาด (Decoupling) ขึ้นมายืนเหนือ 90,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสัญญาณบวกที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยังคงอยู่ในภาวะ Risk-on ที่ต้องระมัดระวังก็ตาม
ทั้งนี้ นายธนลภย์ ยังชี้ว่า การที่นักลงทุนสถาบันเริ่มหันมาสนใจคริปโทฯ มากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลที่มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากมีข่าวนาย Paul Atkins เข้ารับตำแหน่งสำคัญในฝั่งผู้กำกับดูแลด้านการเงินของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดคริปโท รวมไปถึงเกณฑ์ Tokenization ที่คาดว่าจะเป็น Trend ที่มาในปีนี้อย่างแน่นอน
ด้านกลยุทธ์การลงทุนของบริษัทฯ ระบุว่า เมอร์เคิล แคปปิตอล ได้มีการปรับพอร์ตให้มีความยืดหยุ่น โดยให้ความสำคัญกับเหรียญใหญ่อย่างบิทคอยน์ และเหรียญในกลุ่ม Big Cap เป็นหลักและยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับ Alt Coin มากนัก พร้อมชี้จุดวัดใจแนวรับของบิทคอยน์ที่ไม่ควรต่ำกว่า 90,000 ดอลลาร์ เป็นจุดที่ต้องจับตาดู เพื่อประเมินสถานการณ์การลงทุนต่อไป
คริปโทฯ จะไปต่ออย่างไร ทางเลือก? หรือทางรอด? Crypto Insight จะพาทุกคนไปลงลึกกับ นายธนลภย์ ปรีดามาโนช ผู้จัดการเงินทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กับปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดคริปโทฯ ไม่ว่าจะเป็นทั้งปริมาณเงินในระบบ (M2) ผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงกลยุทธ์การปรับพอร์ทฉบับผู้จัดการเงินทุนตัวจริง กับ Crypto Insight : “คริปโทจะรอดไหม? เมื่อทรัมป์จุดไฟสงครามการค้าอีกครั้ง”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 เม.ย. 68)
Tags: Crypto Insight, Cryptocurrency, SCOOP, Stagflation, คริปโทเคอร์เรนซี, ธนลภย์ ปรีดามาโนช, สงครามการค้า, สินทรัพย์ดิจิทัล, เศรษฐกิจโลก, โดนัลด์ ทรัมป์