
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) ทบทวนระบบการบริหารงานบำรุงรักษาสะพาน (BMMS) โดยต้องมีความเข้มงวดในทุกกระบวนการมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ สะพานบนโครงข่าย ทล. มีจำนวน 17,500 แห่ง ซึ่งขณะนี้ให้ ทล. ดำเนินการตรวจสอบใหม่ทั้งหมด พร้อมกับบูรณะ ซ่อมแซมในส่วนที่มีผลกระทบต่อการจราจรของประชาชนทันที และต้องรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบจนกว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จทั้งหมด
สำหรับสะพานบนถนนพระราม 2 (ทล.35) มีทั้งหมด 209 แห่ง ได้สั่งการให้ตรวจสอบทั้งหมดเช่นกัน ซึ่งหากพบว่ามีปัญหาด้านความปลอดภัย ไม่เป็นไปตามมาตรฐานจะต้องซ่อมแซมทันทีเพื่อไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงขึ้นอีกเด็ดขาด
หลังวานนี้ เกิดเหตุก้อนปูนขนาดใหญ่ ตกใส่รถกระบะทะลุกระจกหน้ารถ บริเวณถนนพระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ ช่องทางด่วนใต้ต่างระดับเข้าเมือง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม มีการลงทุนและก่อสร้างโครงการพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่หลายโครงการ และมีการพัฒนาโครงข่ายสะพานในความรับผิดชอบทั้งในส่วนที่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างจำนวนมาก ซึ่งมีความสำคัญต่อประชาชนในการสัญจร จึงได้ทำหนังสือสั่งการไปยัง ทล. กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กพท.) ถึงมาตรการความปลอดภัยของโครงสร้างสะพานในความรับผิดชอบทุกแห่งทั่วประเทศของแต่ละหน่วยงาน ให้มีความมั่นคง แข็งแรง และเป็นไปตามมาตรฐานหลักวิศวกรรม ตลอดจนบำรุงรักษาโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีก ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม จะดำเนินการรับเรื่องเพื่อรวบรวมข้อมูล เพื่อนำมาพิจารณาสั่งการแก้ไขซ่อมแซมอย่างรวดเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ ทล. เรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการการแก้ไขปัญหาร่วมกันให้สำเร็จและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์สูงสุดต่อภาคคมนาคม ทั้งนี้ จากการรายงานของ ทล. ระบุว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ดำเนินการแล้ว และจะดำเนินการจัดการตามแผนเร่งด่วนทันที เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 เม.ย. 68)
Tags: กรมทางหลวง, กระทรวงคมนาคม, ถนนพระราม 2, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ