เครือซีพีเปิดตัว Amaze Super App อีคอมเมิร์ซพันธุ์ไทย รวบลูกค้าบ.ในกลุ่มกว่า 100 ล้านบัญชี

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า อเมซ ซูเปอร์แอป (Amaze Super App) เป็นก้าวแรกของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการเข้าสู่ธุรกิจ E-Commerce ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ในการสร้างสิทธิประโยชน์ที่สูงขึ้นให้กับฐานลูกค้าของกลุ่ม ทั้ง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น [TRUE], บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า [CPAXT], บมจ.ซีพี ออลล์ [CPALL] และ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร [CPF] และจะขยายไปยังร้านค้ากลุ่มอื่น ๆ นอกเครือด้วย โดยแผนระยะยาวจะพยายามต่อยอด Amaze ให้เป็นผู้ประกอบการ E-Commerce ระดับภูมิภาคและก้าวสู่ระดับโลกในอนาคต

โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้าในเครือมากกว่า 100 ล้านบัญชี โดยเป็นลูกค้าที่มีบัญชีร่วมในหลายบริษัทในเครือ 36 ล้านบัญชี ซึ่งการดำเนินงานของ Amaze ในลำดับต่อไปคือจะนำเอาประโยชน์สูงสุดมาสู่ผู้บริโภค และสมาชิกในเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยจะขับเคลื่อนผ่านข้อมูล (Data) และ AI ทำให้เข้าใจผู้บริโภคได้มากขึ้น

ทั้งนี้ปัจจุบันผู้ประกอบการ E-Commerce เจ้าใหญ่ในตลาด ส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติ และเป็นเพียง Market Place ทำให้ไม่มีบริการหลังการขาย แต่ Amaze มีบริษัทที่มีพื้นที่ร้านจริงในการให้บริการหลังการขายและการดูแลด้านคุณภาพสินค้า ซึ่งเป็นจุดเด่นนอกเหนือจากระบบการดูแลสิทธิประโยชน์สมาชิก

“เราพยายามที่จะต่อยอด Amaze ในการขยายให้เป็นผู้ประกอบการ E-Commerce ในระดับภูมิภาคหรือระดับโลก เป็นวิสัยทัศน์ของเราว่าในที่สุดประเทศไทยควรจะมีแชมเปี้ยนด้าน E-Commerce ในการแข่งขันอย่างน้อยในระดับภูมิภาคต่อไป”

นายธรินทร์ ธนียวัน ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มด้านอีคอมเมิร์ซ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เปิดเผยว่า Amaze Super App ไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ แต่เป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ที่เครือซีพีตั้งใจวางรากฐานให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน ด้วยการเชื่อมโยงแต้มสะสมจากหลายแหล่งให้กลายเป็นมูลค่าจริงในชีวิตประจำวัน ผ่านระบบที่ปลอดภัย โปร่งใส และขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาโดยคนไทย แนวทางการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลในวันนี้ ต้องไม่หยุดเพียงแค่การค้าขายออนไลน์ แต่ต้องสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์จากข้อมูล (Data) อย่างมีประสิทธิภาพ เคารพสิทธิของผู้บริโภค และเปิดโอกาสให้แบรนด์ไทยสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด

ในขณะเดียวกันก็วางพื้นฐานสำหรับการทำ Personalized Commerce และ Retail Media อย่างครบวงจรในอนาคต เรามุ่งหวังให้อเมซ ซูเปอร์แอป เป็นมากกว่าพื้นที่ซื้อขาย แต่เป็นโครงสร้างดิจิทัลที่ประเทศไทยสามารถเป็นเจ้าของเองได้ สอดคล้องกับหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ของเครือซีพี ที่ยึดประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน และองค์กรเป็นหลัก พร้อมสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจดิจิทัลไทยในระยะยาว

นางสาวสรินทิพย์ สถิตย์เสถียร กรรมการผู้จัดการ Amaze Super App บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า อเมซ ซูเปอร์แอป ไม่ได้เป็นแค่แอปที่รวมพอยท์จากหลายแหล่งมาไว้ในที่เดียว แต่คือจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติโครงสร้างการใช้พอยท์ในประเทศไทย เรามองเห็นศักยภาพของพอยท์ที่คนไทยมีอยู่แต่ยังใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงพัฒนา อเมซ ซูเปอร์แอป เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถรวมพอยท์นำไปใช้จ่ายได้ง่าย คุ้มค่ากว่าเดิม และเกิดมูลค่าจริงในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นสร้างอีโคซิสเต็มที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาโดยทีมคนไทยทั้งหมด พร้อมผลักดันร้านค้าพันธมิตรเข้าสู่โลกดิจิทัลด้วยต้นทุนที่ต่ำลงและโอกาสในการเข้าถึงฐานลูกค้าในเครือซีพีขนาดใหญ่ที่มีอยู่กว่า 30 ล้านคน เพื่อให้ต้นทุนของการค้าขายออนไลน์ลดลงจริง ทั้งในฝั่งร้านค้า แพลตฟอร์ม และผู้บริโภค เพราะเมื่อต้นทุนลดลงอย่างยั่งยืน ผู้บริโภคก็จะได้ซื้อสินค้าที่ถูกลง ทำให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกันและเติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง พร้อมช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง

อเมซมอลล์ (Amaze Mall) แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ที่รวมสินค้าของแท้ 100% จากกว่า 500 แบรนด์ชั้นนำ ยังมอบประโยชน์มากมายให้กับร้านค้าที่เข้าร่วม โดยมีโครงสร้างค่าธรรมเนียมในการทำธุรกิจที่ยืดหยุ่นมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งช่วยให้ร้านค้าสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เรายังมุ่งให้อเมซมอลล์ เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสนับสนุนร้านค้าด้วยแผนการตลาดและแคมเปญต่าง ๆ เช่น Amaze Mall Day ที่มอบส่วนลดพิเศษและ Pointback สูงสุดถึง 15% เพื่อช่วยขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยเครื่องมือบริหารจัดการที่ใช้งานง่าย และทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำตลอดการดำเนินธุรกิจ ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของ อเมซ ซูเปอร์แอป ที่ต้องการขยายจำนวนร้านค้าให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นเป็น 1,800 ร้านค้าภายในสิ้นปีนี้ เพื่อยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งและสร้างอีโคซิสเต็มทางธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน”

นางสาวสรินทิพย์ กล่าวสรุป

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 เม.ย. 68)

Tags: , ,
Back to Top