ฮาร์วาร์ดโดนสอบสวนปมเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในการคัดเลือกบทความ

กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ ออกประกาศการสอบสวนเมื่อวันจันทร์ (28 เม.ย.) ว่า บรรณาธิการวารสารกฎหมายของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard Law Review) อาจมีพฤติกรรม “เลือกปฏิบัติบนพื้นฐานทางเชื้อชาติ” ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติ Title VI ของกฎหมายสิทธิพลเมืองปี 2507 โดยกล่าวหาว่า บรรณาธิการวารสารดังกล่าวได้เร่งรัดกระบวนการพิจารณาบทความที่เขียนโดยนักวิชาการที่เป็นสมาชิกของกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อย

เครก เทรเนอร์ รักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการด้านสิทธิพลเมืองระบุในแถลงการณ์ว่า กระบวนการคัดเลือกบทความของวารสารกฎหมายฮาร์วาร์ดดูเหมือนจะมีการเลือกที่รักมักที่ชังโดยใช้เชื้อชาติเป็นเกณฑ์ โดยให้ความสำคัญกับเชื้อชาติของนักวิชาการกฎหมายเทียบเท่าหรืออาจจะมากกว่าคุณภาพของผลงานที่ส่งเข้ามาเสียอีก

ด้านตัวแทนของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดออกมาระบุว่า มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นที่จะดูแลให้โครงการและกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้ทั้งหมด และพร้อมที่จะตรวจสอบข้อกล่าวหาที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับการละเมิดใด ๆ ก็ตาม

ความเคลื่อนไหวในการสอบสวนครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางเพิ่งมีคำสั่งให้เร่งกระบวนการพิจารณาคดีที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเป็นฝ่ายยื่นฟ้อง เพื่อสกัดกั้นความพยายามของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่จะอายัดเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลางมูลค่ามหาศาลถึง 2.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยชั้นนำกลุ่มไอวีลีกแห่งนี้กังวลว่าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่องานวิจัยทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ที่สำคัญ

ทั้งนี้ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ปธน.ทรัมป์ได้พยายามลดทอนบทบาทของโครงการส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก (DEI) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อยกระดับกลุ่มคนที่เผชิญความไม่เท่าเทียมในอดีต โดยรัฐบาลทรัมป์มองว่ามาตรการช่วยเหลือชนกลุ่มน้อยเหล่านี้กลับเป็นการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มคนอื่น ๆ เช่น คนผิวขาวและผู้ชาย

เมื่อวันจันทร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเพิ่งประกาศเปลี่ยนชื่อสำนักงานที่ดูแลด้าน “ความหลากหลาย ความเท่าเทียม การไม่แบ่งแยก และความเป็นส่วนหนึ่ง” เป็น “ชีวิตชุมชนและวิทยาเขต” การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากปธน.ทรัมป์ได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับเพื่อจำกัดบทบาทของ DEI ทั้งในภาครัฐและเอกชน

ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน อัลลิสัน เบอร์โรห์ส ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ ได้กำหนดนัดไต่สวนคดีที่ฮาร์วาร์ดฟ้องรัฐบาลในวันที่ 21 ก.ค. หลังจากฮาร์วาร์ดแสดงความกังวลว่า การอายัดเงินทุนและการขู่ตัดงบประมาณเพิ่มเติมกำลังเป็นภัยคุกคามต่องานวิจัย

เมื่อปลายเดือนมี.ค. รัฐบาลทรัมป์ได้ประกาศทบทวนเงินช่วยเหลือและสัญญามูลค่าราว 9 พันล้านดอลลาร์ที่ให้แก่ฮาร์วาร์ด โดยอ้างความล้มเหลวในการปกป้องนักศึกษาจากการต่อต้านยิว นับตั้งแต่นั้น รัฐบาลก็ได้อายัดเงินทุน 2.3 พันล้านดอลลาร์ ขู่จะเพิกถอนสถานะยกเว้นภาษีและสิทธิ์ในการรับนักศึกษาต่างชาติ พร้อมทั้งเรียกร้องข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับต่างประเทศ แหล่งเงินทุน นักศึกษา และคณาจารย์ของมหาวิทยาลัย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 เม.ย. 68)

Tags: ,
Back to Top