
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้กล่าวสดุดีผลงานของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ (SZRU) และหน่วยความมั่นคงแห่งยูเครน (SBU) จากการสังหารนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองบัญชาการทหารสูงสุดของรัสเซียหลายนาย นับตั้งแต่สงครามอุบัติขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ
คำสดุดีนี้มีขึ้นในวันจันทร์ (28 เม.ย.) ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ลอบสังหารพลโท ยาโรสลาฟ มอสคาลิก วัย 59 ปี รองหัวหน้ากรมอำนวยการยุทธการหลักแห่งคณะเสนาธิการทหารร่วมรัสเซีย ด้วยระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ ณ เมืองบาลาชิกา ชานกรุงมอสโก เมื่อวันศุกร์ (25 เม.ย.)
สำหรับเหตุคาร์บอมบ์ ฝ่ายรัสเซียได้กล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของยูเครน และได้จับกุมผู้ต้องสงสัยซึ่งอ้างว่าเป็นสายลับชาวยูเครนไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ทางการยูเครนยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นหรือยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุโดยตรงแต่อย่างใด
ในการแถลงผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรม ปธน.เซเลนสกีไม่ได้เจาะจงถึงกรณีของพลโทมอสคาลิก แต่กล่าวโดยรวมว่า “หัวหน้าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศได้แจ้งรายงานเกี่ยวกับการกำจัดบุคคลจากกองบัญชาการระดับสูงของกองทัพรัสเซีย ความยุติธรรมย่อมเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
นอกจากนี้ ปธน.เซเลนสกียังกล่าวขอบคุณหน่วย SBU สำหรับ “มาตรการเพิ่มเติมเพื่อต่อต้านเครือข่ายสายลับรัสเซียในยูเครนและผู้ก่อวินาศกรรม” ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดี
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของรัสเซียตกเป็นเป้าหมาย ก่อนหน้านี้ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว หน่วย SBU ของยูเครนเคยอ้างว่าได้สังหารพลโท อิกอร์ คิริลลอฟ นายพลรัสเซียซึ่งยูเครนกล่าวหาว่าเป็นผู้รับผิดชอบในการใช้อาวุธเคมี
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ตีพิมพ์ข่าวมรณกรรมของพลโทมอสคาลิกในหนังสือพิมพ์ทางการของกองทัพ ซึ่งระบุว่าเขาเป็น “บุตรผู้ภักดี” ของรัสเซีย และมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลกลุ่มควบคุมการรบของคณะเสนาธิการทหารนับตั้งแต่สงครามได้เริ่มขึ้น อีกทั้งเคยเข้าร่วมในการเจรจาว่าด้วยปัญหายูเครนภาคตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างปี 2558-2564
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 เม.ย. 68)
Tags: ยูเครน, รัสเซีย, โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี