TK เน้นขยายพอร์ตตปท.-มองหาโอกาสลงทุนใหม่ หลังภาพรวมตลาดเช่าซื้อยังหดตัว

นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร [TK] กล่าวเกี่ยวกับภาพรวมอุตสาหกรรมว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศ 3 เดือนแรกของปี 2568 มียอดขายรวม 461,632 คัน 74% เป็นยอดขายในต่างจังหวัด และ 26% เป็นยอดขายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งขยับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากในช่วงเวลาเดียวกันปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 454,796 หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5% โดย เป็นรถจักรยานยนต์ประเภท Family 41% Scooter 55% Sport 3% และเป็น EV เพียง 1% ทั้งนี้ คาดว่าตลาดรถจักรยนต์ในปีนี้จะทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านคัน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ยอดขาย 1,708,215 คัน

สำหรับตลาดเช่าซื้อภาพรวมในปี 2568 คาดยังหดตัวลดลง ทั้งจากมาตรการเพดานดอกเบี้ยจาก สคบ. และมาตรการจากกฎหมายควบคุมธุรกิจให้เช่าซื้อและให้เช่าแบบลีสซิ่งที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังจะประกาศออกมาเร็ว ๆ นี้ อีกทั้งสถานการณ์หนี้ครัวเรือนในประเทศซึ่งยังอยู่ในระดับสูงที่ 88% ของ GDP ณ สิ้นไตรมาส 4/67 ส่งผลต่อกำลังการซื้อและการผ่อนชำระค่างวดของลูกค้าที่มีรายได้น้อย

อย่างไรก็ดี TK มีนโยบายดำเนินธุรกิจสำคัญคือ ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศโดยเน้นคุณภาพลูกหนี้ ขยายตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในต่างประเทศโดยเฉพาะในตลาดที่มีการเติบโต สร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ที่ต่อยอดจากความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ อาทิ ธุรกิจเช่ารถจักรยานยนต์ หรือ TK ME สินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ควรคู่กับการมองหาโอกาสลงทุนในธุรกิจใหม่มีศักยภาพที่บริษัทฯ สามารถต่อยอดความเชี่ยวชาญที่มีอยู่เดิม

นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ TK เปิดเผยว่า จากการดำเนินธุรกิจของ TK ในปี 2567 ที่ผ่านมา มีรายได้ 1,295.7 ล้านบาท จากพอร์ตสินเชื่อรวม 1,994.5 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้จากบริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ 53.8% บริการเช่ารถจักรยานยนต์ TK ME 7.2% บริการสินเชื่อรถยนต์ 1.1% และรายได้อื่น ๆ 37.9% อาทิ บริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ สินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ ฯลฯ

จากภาพรวมของตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการหดตัวของตลาด รวมทั้งผลจากการบังคับใช้หลักเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรมของ ธปท. นอกเหนือจากการกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยค่าเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ที่ 23% ต่อปี จากประกาศของ สคบ. ส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ ลดลงจากปีก่อน และขาดทุน 15.9 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทยังคงมีกำไรสะสม ที่ประชุมมีมติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท จำนวน 500 ล้านหุ้น รวมเป็นเงิน 100 ล้านบาท และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นี้

ในด้านของสถานะทางการเงิน มูลค่าสินทรัพย์รวมเทียบมูลค่าลูกหนี้สุทธิ ณ สิ้นปี 2567 TK มีเงินสดและเงินฝากมูลค่ารวม 3,191 ล้านบาท ขณะพอร์ตลูกหนี้รถจักรยานยนต์ในประเทศมีมูลค่า 765 ล้านบาท และมีพอร์ตลูกหนี้ในต่างประเทศที่ สปป. ลาว และกัมพูชามีมูลค่า 945 ล้านบาท โดยสัดส่วนพอร์ตลูกหนี้ต่างประเทศ 55.3% สูงกว่าสัดส่วนลูกหนี้ในประเทศที่ 44.7% ทั้งนี้ บริษัทฯ ใช้นโยบายบริหารเงินสดและเงินฝากโดยคำนึงถึงผลตอบแทนและความปลอดภัยของเงินต้น และพร้อมนำเงินในมือไปขยายตลาดเช่าซื้อ อาทิ การเพิ่มพอร์ตในกัมพูชา รวมทั้งเปิดทางเลือกในการนำเงินไปซื้อบริษัทที่มีศักยภาพในธุรกิจที่ TK มีความเชี่ยวชาญ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 เม.ย. 68)

Tags: , , ,
Back to Top